การฝึกทักษะพื้นฐานให้คนมาทำธุรกิจ

POWER  ONE

โครงการ “ POWER  ONE ” พลังสู่ความสำเร็จ ความคุ้มค่าของ ความเข้มแข็งที่เสริมความเข้มข้น ในนิยามของคำว่า “ POWER  ONE ” พลังอันยิ่งใหญ่ ที่อุบัติขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของผู้นำทุกๆ ท่าน ได้เกอดขึ้นแล้วนับจาก วันที่ 18 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป และแบบเรียนนี้จะถูกส่งมอบให้กับลูกหลานของพวกเราในรุ่นต่อ ๆ ไป ได้ใช้ศึกษา นำไปเป็นหลักสูตรแบบอย่างเพื่อความสำเร็จที่มั่นคงและยืนยาวตลอดไป

การฝึกทักษะพื้นฐานให้คนมาทำธุรกิจ 

1.     การฝึกทักษะการพูดเปิดประเด็นรายได้แบบ  Active & Passive

คนเราแทบทุกคนเมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาก็จะต้องหาเงินมาใช้จ่าย การหาเงินเข้ามานั้นเราเรียกว่ารายรับ (Income) เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำรงชีวิตและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต รายรับนั้นแบ่งออกได้เป็น สองหมวด คือ

  1.1            รายรับแบบ Active  income  คือรายได้ที่ได้มาจากการออกแรงและลงทุนเวลา ซึ่งเป็นรายได้ของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ถ้าหากว่าเขาหยุดทำงานเขาก็จะหยุดรายได้เรียกว่าใช้แรงและเวลาแลกเงิน ดังนั้นการหารายได้แบบ Active  income  เขาจะไม่สามารถหยุดการทำงานของเขาได้เลย เช่น  งานรับจ้าง  พนักงานบริษัท  ลูกจ้างประจำ  พ่อค้าแม่ค้า ฯลฯ ซึ่งรายได้ที่ได้มาจะต้องแลกกับแรงงานของเขา รวมถึงเวลาในชีวิตของเขา เขาต้องทำงานตลอดไปเพื่อรายได้ประเภทนี้ หลายคนอาจจะเคยชินและพอใจกับรายได้แล้วเก็บรายได้ที่ได้มาเอาไว้ใช้ตอนชราหรือบั้นปลายชีวิต คนที่มีรายได้แบบนี้จะไม่ค่อยมีเวลากับการทำกิจกรรมอื่น ๆ เรียกว่า ขาดอิสรภาพในเรื่องเวลา

1.2             รายรับแบบ Passive income  คือเป็นรายได้ที่ได้มาโดยไม่ต้องออกแรงทำงานเลย หลายๆ คนอาจจะยังนึกไม่ออกว่าถ้าไม่ทำงานแล้วจะได้เงินอย่างไร? มองไม่เห็นภาพ จะยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ คนบางคนลงทุนซื้อ อสังหาริมทรัพย์ อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น บ้าน ที่ดิน หรือห้องเช่า จากนั้นเขาก็เอาอสังหาริมทรัพย์ของเขานั้น ปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ ก็จะทำให้เขามีรายได้จากค่าเช่าทุก ๆ เดือน เป็นรายได้ทีเกิดขึ้นโดยไม่ต้องลงแรงทำงานทุกๆ วันแต่ก็มีรายได้เข้ามาทุกๆ เดือน ถึงแม้เขาจะไม่ได้ทำงานก็สามารถอยู่ได้แบบสบายๆ หรือถ้าท่านมีเงินฝากธนาคาร 100 ล้าน ก็จะได้ดอกเบี้ยเดือนละ 3-4 แสนบาทต่อเดือน  และรายได้โดยที่ไม่ต้องออกแรงทำงานเลย รายได้ที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า Passive income   คนที่มีรายได้หรือรายรับแบบ Passive income  นั้นเขาจะมีอิสรภาพทางการเงินและอิสรภาพในเรื่องของเวลาควบคู่กันไปซึ่งเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา คนไทยจะเรียกว่าคนมีบุญ มีวาสนา เกิดมามีชีวิตที่สุขสบาย

            ถ้าชีวิตคนเรานั้นถ้าสามารถที่จะเลือกได้ ตัวท่านเองจะเลือกมีรายได้แบบ Active  income  หรือ Passive income  เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็มีความฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นและก็จะเลือกที่จะมีรายได้แบบ  Passive income   แต่ในโลกความเป็นจริง ในชีวิตจริง ๆ ท่านมีเงินมากเพียงพอที่จะลงทุนในลักษณะดังกล่าวเพื่อจะมีรายได้แบบ Passive income  หรือไม่ ? ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีกำลังทางการเงินที่จะสามารถทำได้เลยในชั่วชีวิตนี้จึงจำเป็นต้องทำงานหารายได้แบบActive income ไปตลอดชีวิต

           ธุรกิจ ZHULIAN  เป็นธุรกิจหรืองานที่สร้างรายได้แบบ  Passive income  ได้ในอนาคต เป็นงานที่ใช้เวลาเรียนรู้ทำความเข้าใจและฝึกฝน โดยเริ่มจากการทดลองทำพร้อมๆ กับงานประจำของท่านได้เลยและใช้เวลาเพียงช่วงเวลาสั้นๆ 1-3 ปีก็จะเริ่มมีรายได้แบบ Passive income ในระดับเกินหนึ่งแสนบาทต่อเดือนและผลประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย จากการทำงานนี้ ก่อนอื่นท่านจำเป็นจะต้องเข้าใจกติกาเรืองรายได้ (แผนการตลาด) ที่ท่านจะได้รับเสียก่อน ว่าที่นี่มีกติกาอย่างไรบ้าง

2.     การฝึกทักษะการนำเสนอแผนการตลาด 

       แผนการตลาด นับว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการจูงใจให้คนเข้ามาทำธุรกิจกับ ZHULIAN  แบบขยายเครือข่ายและทำงานอย่างมีความหวังในอนาคตเลยทีเดียว  การที่เราสามารถนำเสนออธิบายและเขียนแผนการตลาดเป็น จะทำให้ผู้สมัครใหม่เห็นภาพได้อย่างชัดเจนและเห็นถึงผลตอบแทนที่ไม่มีขีดจำกัดทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่จะมีรายได้แบบ Passive income 

หลักคิดในขณะนำเสนอแผนการตลาด

-           พูดได้ตื่นเต้น  น่าฟังชัดเจน

-            พูดด้วยความเชื่อมั่น จริงใจ

-           จำตัวเลขได้แม่นยำ

-          เน้นการแซงกันได้ ย้ำถึงความยุติธรรมตำแหน่งขึ้นแล้วไม่ตก

-          เน้นอิสรภาพทั้งเงินและเวลา การท่องเที่ยว รถยนต์และบ้าน

-          หยุดทำได้โอนให้ทายาทได้

-          สะสมผลงานเกิดจากความช่วยเหลือสอนงานให้ผู้อื่นสำเร็จก่อน

-           เน้นการการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง

-          นำเสนอให้เหมาะสมกับคุณวุฒิ วัยวุฒิ ตำแหน่งและหน้าที่หรือฐานะของผู้ฟัง

-          ไม่ลืมที่จะสรุปตอนท้ายว่าเป็นธุรกิจที่จะมีรายได้แบบ  Passive income ในอนาคต 

          สนใจทำธุรกิจสร้างรายได้แบบ Passive income  ติดต่อได้ ที่ นลินรัตน์  086 9165697  ID Line: nalinratkongkaew

l

ความสัมพันธ์กันของ 4 หุ้นส่วน

1.     บริษัท (Company)

บริษัทมีหน้าที่ดังนี้

·        ผลิภัณฑ์ (Product)

: มีทีมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมีโรงงานผลิตที่ได้รับมาตรฐานสากล

: เป็นเจ้าของสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากมาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ล้าสมัย

: ผลิตภัณฑ์โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และมีศักยภาพในการทำตลาด

: ผลิตภัณฑ์หลากหลายมากกว่า 100 รายการ

: มีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจมากกว่า 18 ปี

·        แผนการตลาด (Marketing)

: ลงทุนน้อย ไม่เกิดความเสี่ยง

: สะสมยอดได้ไม่กำหนดระยะเวลา

: ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่ตก มาทีหลังก็แซงกันได้

: รายได้สามารถเป็นมรดกตกทอดไปสู่ลูกหลานได้จริง

: กองทุนรถยนต์เป็นชื่อของตัวท่านเอง

: รายได้เติบโตแบบต่อเนื่องแม้ว่าคุณจะเกษียณจากธุรกิจแล้ว

: แผนการตลาดยุติธรรม

2.     เอเยนซี่ (Agency)

: สถานที่รองรับและให้บริการนักธุรกิจซูเลียนทั่วประเทศ เข้าเรียนรู้สินค้าและแผนการตลาดพร้อมทั้งจัดอบรมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

: ทุกสายงานเข้าเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

3.     องค์กรหรือเครือข่ายสายงานคุณ (Tem Network)

บุคลเหล่านี้คือ คนที่จะร่วมทำงานกับคุณ และให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอุปกรณ์สนับสนุนธุรกิจของระบบ Power One แก่คุณ เขาเหล่านี้ไม่เพียงมีประสบการณ์ แต่ยังมีส่วนได้ส่วนเสียในความสำเร็จของคุณ จงรู้คุณค่าของพวกเขา เชื่อฟังพวกเขาและไว้วางใจขอคำแนะนำจากพวกเขาเพื่อที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

4.     คุณ (You)

คุณคือหุ้นส่วนสุดท้ายในความเป็นหุ้นส่วนอันแสนพิเศษนี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่คุณคือตัวแปรที่สำคัญอย่างแท้จริง แม้ว่าอีก 3 หุ้นส่วนพร้อมและได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว สิ่งที่เรายังไม่ทราบก็คือตัวคุณ คุณทราบหรือไม่ว่าคุณต้องการอะไร? คุณทำงานไห้บรรลุถึงสิ่งนั้นหรือไม่? คุณยอมให้คนอื่นสอนได้หรือไม่? มีสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถช่วยตัวเองได้ก็คือ ฟังคำแนะนำ

“จงทำตัวให้เหมือนน้ำครึ่งแก้ว ที่พร้อมจะรับสิ่งใหม่ ๆ   และความรู้ใหม่ ๆ ตลอดเวลา

เมื่อไหร่ที่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว ความสำเร็จจะหลุดลอย”

สนใจทำธุรกิจติดต่อ  นลินรัตน์  086 9165697  ID Line: nalinratkongkaew

รากฐานความสำเร็จ

กระบวนการแห่งความสำเร็จสามารถแยกออกเป็น 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.       ความปรารถนาและความฝัน

2.       เป้าหมาย

3.       การวางแผน

4.       การลงมือทำ

5.       ความเชื่อ

ขั้นตอนที่ 1: ความปรารถนาเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา เป็นสิ่งที่รองรับการเริ่มต้นสำหรับความสำเร็จทุกสิ่งที่เราทำ ความปรารถนาของคุณสามารถทำให้คุณฝัน และเมื่อคุณฝัน คุณได้สร้างภาพในใจของสิ่งที่คุณต้องการ คำถามที่ยิ่งใหญ่คำถามหนึ่งของชีวิตคือ”ทำไมบางคนจึงประสบความสำเร็จในขณะที่คนอื่นๆไม่ประสบผลสำเร็จ ”กรณีศึกษา”ผู้ประสบความสำเร็จ” หลายกรณีแสดงให้เห็นสิ่งที่เหมือนกันบางอย่างและการศึกษา”ผู้ไม่ประสบความสำเร็จ” ก็ได้เปิดเผยลักษณะร่วมกันหลายอย่างเช่นกัน แต่เราจะมุ่งสนใจเฉพาะกรณีผู้ประสบผลสำเร็จเท่านั้นนอกเหนือเหตุผลอื่นใดพวกเขาเป็น “นักฝัน” พวกเขาเฝ้าใฝ่ฝันถึงสิ่งที่ตนเองต้องการและคาดหวังว่าจะต้องได้ พวกเขามุ่งความสนใจไปที่ความฝันของตน ปกป้องและทะนุถนอมมันไว้ผู้ที่แระสบความสำเร็จเรียนรู้ที่จะนึกถึงภาพสิ่งที่พวกเขาสามารถเป็นได้ไว้ในใจ การนึกถึงความฝันและตัดสินใจทำให้มันเป็นความจริงเป็นบ่อน้ำพุของทุกสิ่งอย่างที่เราบรรลุในชีวิต ดังนั้นจงเริ่มตันคิดถึงความฝันของคุณ จงขัดเกลาให้ความฝันของคุณชัดเจนและนึกถึงมันตลอดเวลา อย่าให้ใครขโมยความฝันของคุณ

ขั้นตอนที่ 2: เป้าหมาย

ความฝันเป็นส่วนที่เป็นธรรมชาติของการดำรงชีวิต เป็นความสามารถเฉพาะของมนุษย์ เราฝันถึงสิ่งที่เราปรารถนา ยิ่งความปรารถนาชัดเจนเท่าไหร่ ความฝันของเราก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งความฝันชัดเจนมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งทำให้เราสามารถกำหนด “เป้าหมาย” ที่ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้นด้วย เมื่อไรก็ตามที่คุณได้กำหนดเป้าหมายของคุณและกำหนดเวลาที่คุณต้องการบรรลุเป้าหมายนั้น คุณจะสามารถวางแผนการทำงานโดยมีทิศทางที่ถูกต้อง เป้าหมายเปรียบเสมือนจุดหมายของการเดินทางคุณไม่สามารถวางแผนการเดินทางได้ถ้าคุณยังไม่สามารถตัดสินใจว่า คุณกำลังจะไปที่ใด คุณเห็นไหมว่ากระบวนการงานนี้ทำงานอย่างไร? ดังนั้นจงพุ่งความสนใจไปที่ความปรารถนาความฝันของคุณที่ยังเลือนรางอยู่ก็จะชัดเจนขึ้นกลายเป็น”เป้าหมาย” ที่ลับเฉพาะเจาะจง อย่าให้ใครขโมยความฝันของคุณได้

ขั้นตอนที่3: การวางแผน

ในสองขั้นตอนแรก ความฝันและเป้าหมาย นำมาซึ่งขั้นตอนที่ 3 นี้คือ”การวางแผน”การมีความฝันเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีการวางแผนก็จะกลายเป็นความรารถนาที่เหนือเหตุผล คนส่วนใหญ่ไม่ได้ล้มเหลวเพราะเขาวางแผนให้ล้มเหลว แต่พวกเขาล้มเหลวเพราะไม่ได้วางแผน การวางแผนเป็นเสมือนชีพจรของความสำเร็จ จุดหมายปลายทางและตารางเวลาก็เป็นส่วนประกอบที่จำเป็นในกระบวนการสู่ความสำเร็จด้วย ดังนั้น จงวางแผนการทำงานก่อนที่จะก้าวออกไปเสมอ เพื่อที่คุณจะไม่เสียเวลา หรือหลงทางในการมุ่งสู่เป้าหมายของคุณ อย่าให้ใครขโมยความฝันของคุณ

ขั้นตอนที่ 4: ลงมือทำ

ความฝัน เป้าหมาย และการวางแผนอาจจะสูญเปล่าถ้าปราศจากขั้นตอนที่สี่ ของกระบวนการสู่ความสำเร็จก็คือ”การลงมือทำ” คุณได้รับการแนะนำเข้ามาสู่แผนงานธุรกิจที่ได้ผลและสามารถช่วยให้บรรลุสิ่งที่คุณปรารถนาไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะต้องตัดสินใจคือ คุณจริงใจกับสิ่งที่คุณปรารถนามากพอที่จะลงมือหรือไม่ ? ถ้าได้เห็นลู่ทางและวิธีการแล้วอย่าให้ใครขโมยความฝันของคุณ

ขั้นตอนที่ 5: ความเชื่อ

คุณอาจกำลังคิดว่า”เรื่องของความเชื่อ” พวกเขาลืมมันไปหรือเปล่า จริงๆแล้วความเชื่อจะต้องมาก่อนและมาพร้อมกับการกระทำ แต่ที่ถูกทิ้งไว้ท้ายสุดเพราะมันเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุดของกระบวนการสู่ความสำเร็จ 5 ขั้นตอน

มีคำพูดว่า “ส่วนที่ยากที่สุดของความสำเร็จคือ การเชื่อว่าคุณสามารถทำได้” นั่นเป็นความจริงและเหตุผลก็คือ ขั้นตอนการทำงาน 4ขั้นตอนแรกในกระบวนการสู่ความสำเร็จเป็นสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลและเราสามารถจัดการได้ด้วยความสามารถในการเข้าใจในเหตุผลของเรา แต่ความเชื่อเป็นอารมณ์และเรารู้สึกไม่ปลอดภัยกับมันเพราะว่าเรามีความเข้าใจที่ยังเป็นปัญหากับอารมณ์ของเราเองเราไม่เข้าใจแม้กระทั่งว่าทำไมเราถึงโกรธเกี่ยวกับเรืองบางเรื่องและบางครั้งก็กลับไม่รู้สึกอะไรเลยในกรณีแบบเดียวกัน

มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่สามารถอธิบายได้เรามักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในความไม่แน่นอน ถ้าเราไม่เชื่อก่อนว่าเราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้ การขาดความเชื่อมั่นของเราเป็นเหตุให้เราไม่ทำงานหนักสำหรับมัน และการขาดการทำงานนั้นแหละที่ปอดโชคชะตาของเราเองเรามักจะเป็นศัตรูร้ายกาจที่สุดของตัวเองอยู่บ่อยๆ เชคสเปียร์เคยพูดว่า “ความสงสัยของงเราหลอกตัวเราและบ่อยครั้งที่ทำให้เราเสียผลประโยชน์ที่เราอาจจะได้รับโดยล้มเลิกความพยายาม”

ในการเริ่มต้น คุณรู้ว่าเมื่อเราได้เริ่มคิดถึงสิ่งต่างๆที่เราสามารถทำได้หลังจากที่เรามีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของตนเองเราจะรู้สึกตื่นเต้น ความฝันสี้กำลังกระตุ้นให้กำเนิดเป้าหมายและแผนงานที่จะทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นความจริงแต่ลงมือทำจะไม่เกิดขึ้นเลยจนกว่าจะเชื่อว่า “คุณสามารถทำได้”

“การเรียนรู้คือการเริ่มต้น เดินไปสู่จุดหมายของชีวิต”

สนใจอยากทำธุรกิจที่สร้างรายได้แบบ Passive Income : ติดต่อ นลินรัตน์  086 9165697 ID Line :nalinratkongkaew

การทำสปาหน้าด้วยตัวเอง

       

สปาสูตร มัชชาฉ กดไล่ต่อมน้ำเหลือง

      เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว

      แม้ผิวที่บอบบาง

Ø เห็นผลครั้งแรกที่ใช้

Ø กระชับรูขุมขน

Ø แก้ไขร่องแก้มลึก

Ø ลบรอยหมองคล้ำ

Ø กระ ฝ้า ริ้วรอย

ความรู้ทั่วไปเรื่องผิว

-          ผิวหนังที่บางที่สุด- อยู่บริเวณเปลือกตา

-          ผิวหนังที่หนาที่สุด- อยู่ที่บริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า

ผิวหน้ามี 4 ประเภท คือ

1.     ผิวธรรมดา มีลักษณะ ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเห็นไม่ชัด ผิวประเภทนี้เป็นผิวค่อนข้างสมบูรณ์ มักไม่ค่อยมีปัญหา

....การดูแลรักษาง่าย เพียงแค่คอยใช้ครีมบำรุงทาเช้าและก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและรักษาสภาพผิวให้คงเดิม

2.     ผิวผสม  มีลักษณะ ผิวมันบริเวณ ที – โซน และมีผิวธรรมดาหรือแห้งบริเวณช้างแก้ม 

....การดูแลรักษายาก การใช้ครีมบำรุงต้องแยกตามสภาพผิวทั้งสองแบบ

3.     ผิวมัน  มีลักษณะ มีรูขุมขนกว้าง ผิวหยาบและเป็นสิวง่ายผิวประเภทนี้ตะมีน้ำมันออกมาตลอดเวลาจึงมักทำให้เกิดสิวง่าย

....การดูแลรักษาไม่ควรใช้ครีมที่มีความมันเพราะมีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวอยู่ตลอดเวลา

4.     ผิวแห้ง มีลักษณะผิวละเอียด รูขุมขนเล็กมาก เกิดริ้วรอยได้ง่าย

....การดูแลรักษาควรใช้ครีมบำรุงที่น้ำมัน Oil เป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มความชุมชื้นให้แก่ผิว

            

ขั้นตอนการทำสปาหน้าด้วยตัวเอง

การทำสปาหน้า คือการนวดกดจุด เดรนน้ำเหลือง ยกกระชับปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เป็น V-Shave

ประโยชน์ของการนวดกดจุด

1.     การนวดกดจุด  เป็นการกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนเป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใบหน้า เป็นการนำพาสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ใบหน้าได้ดียิ่งขึ้นพื้นฐานการกดจุดคือผ่อนลมหายใจออกแล้วค่อยๆกด สูดลมหายใจเข้าแล้วค่อยๆคลาย  ตรงไหนที่รู้สึกเจ็บเล็กน้อย รู้สึกกดดันหรือรู้สึกสบายก็ให้หยุดนิ้วตรงนั้น

2.     การเดรนน้ำเหลือง  เพื่อทิ้งขยะของเสียบนใบหน้า ต่อมน้ำเหลืองมีหน้าที่กำจัดของเสียที่น้ำเหลืองพามาอย่างไม่มีวันสิ้นสุดและสกัดกั้นไม่ให้แบคทีเรียแบะสารแปลกปลอมเข้ามา การทำถังขยะให้ว่างได้โดยการบีบ เดรนต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้ต่อมน้ำเหลืองไหลได้สะดวกโดยการลูบจากกึ่งกลางของใบหน้าออกไปตามต่อมน้ำเหลืองต่างๆ

3.     ยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวสวยสมส่วน

4.     ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายหน้า เป็นการพักผ่อนที่ดี

5.     ลดอาการบวมน้ำและลดถุงใต้ตา

6.     ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ชะลอความชราก่อนวัย

7.     สะดวกเพราะใช้เวลาน้อยเพียงแค่ 5 นาที

8.     ประหยัดเพราะเราทำได้ด้วยตัวเองตามขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก

Ø ขั้นตอนที่ 1 การนวดกดจุด

 เป็นการทำให้เลือดเดินสะดวก ทำให้หน้ามีเลือดฝาดเปล่งปลั่งและใบหน้าสดใสแต่ถ้าใบหน้าเกิดการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อก็ทำให้หน้าห้อยย้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก รวมทั้งยังเกิดผลกระทบต่อใบหน้าตามมาอีกมากมาย เช่น การเกิดสิว การเกิดฝ้า การอุดตันของไขมันใบหน้า  การกดจุดจึงเป็นการเปิดประตูลมของใบหน้าทำให้เลือดหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี

  ประโยชน์การกดจุดมีดังนี้

1.     เป็นการกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนดี เลือดฝาด ผิวหน้าสดใส ป้องกันการเกิดสิว ฝ้า และการอุดตันของไขมันบนใบหน้า

2.     เป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใบหน้าเป็นการนำพาสารอาหารทีมีประโยชน์เข้าสู่ใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น

วิธีการกดจุด

-          การกดจุดคือการผ่อนลมหายใจออกแล้วค่อยๆกด ในขณะกดให้สูดลมหายใจเข้าแล้วค่อยๆคลายพร้อมกับค่อยๆยกมือออก

-          ตรงไหนที่รู้สึกเจ็บเล็กน้อย รู้สึกกดดันหรือรู้สึกสบายก็ให้หยุดนิ้วตรงนั้นแสดงว่าตรงจุด

-          การกดประตูลมในแต่ละจุดให้ใช้ นิ้วกดไปพร้อมกับดันหน้าขึ้น

 ขั้นตอนการกดจุด (หน้าแห้งหรือมีครีมก็ได้)

1.     ใช้นิ้วกลางทั้งสองข้าง กดบริเวณกึ่งกลางคาง นับ 1-6  แล้วค่อยถอนมือออกแล้วเลื่อนไปจุดอื่น

2.     ใช้นิ้วกลางทั้งสองข้าง กดลงบริเวณมุมปากทั้งสองข้าง กดค้างไว้นับ 1-6 แล้วปล่อยมือเลื่อนไปจุดอื่น

3.     ใช้นิ้วกลางทั้งสองข้าง กดลงบริเวณกึ่งกลางชานจมูก กดค้างไว้นับ 1-6 แล้วปล่อยมือเลื่อนไปจุดอื่น

4.     ใช้นิ้วกลางทั้งสองข้าง กดลงบริเวณปีกจมูกทั้งสองข้าง กดค้างไว้นับ 1-6 แล้วปล่อยมือเลื่อนไปจุดอื่น

5.     ใช้นิ้วกลาง กดลงบริเวณหัวตาและนิ้วชี้วางบริเวณเหนือคิ้วแล้วรีดขนานไปกับคิ้วลากมาที่หางตาและ กดค้างไว้นับ 1-6 แล้วปล่อยมือเลื่อนไปจุดอื่น

6.     ใช้นิ้วกลางกดบริเวณขมับค้างไว้นับ 1-6 ปล่อยมือเลื่อนไปจุดต่อไป

7.     ใช้นิ้วกลางกดใต้โครงกระดูกบริเวณใต้โหนกแก้มนับ 1-6 กดค้างไว้แล้วปล่อย

*** ทำขั้นตอน 1-7  จำนวน 3 รอบ ***

Ø ขั้นตอนที่ 2 การล้างหน้าหรือ สปาหน้า

เริ่มจากมือทั้งสองข้างใช้ปลายนิ้วนางและนิ้วกลางเพราะเป็นนิ้วที่ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไปเหมาะสำหรับการใช้นวดวนเพื่อการล้างหน้าหรือสปาหน้าได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น

วิธีการนวดคือ  วนเป็นวงกลมโดยวนออกจากตัว 8 จุด จุดละ 20 รอบดังนี้คือ

จุดที่ 1. กึ่งกลางคาง

จุดที่ 2. บริเวณมุมปากหรือแก้มด้านล่าง

จุดที่ 3. โหนกแก้มใต้กระดูก

จุดที่ 4. บริเวณขมับ

จุดที่ 5. หน้าผาก

จุดที่ 6..ถูลากยาวบริเวณร่องจมูกโดยใช้นิ้วกลาง

จุดที่ 7. บริเวณปีกจมูก

จุดที่ 8. วนรอบชานจมูกลากยาวผ่านจุดที่ 2 และ 1

***ทำทั้ง 8จุดจำนวน 3 รอบ***

Ø ขั้นตอนที่ 3 การเดรนน้ำเหลือง

***ต้องทำในขณะที่ใบหน้าชุ่มไปด้วยเจลหรือสูตรคลอโรฟิลล์เพื่อการขับสารพิษออกจากใบหน้าถ้าหน้าแห้งจะเป็นผลเสียกับผิวหนังได้ต้องเพิ่มปริมาณน้ำอีก ***

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ในร่างกายเรานั้นมีการไหลเวียนของ ของเหลวอยู่สองอย่างคือ ทางเส้นเลือดและท่อน้ำเหลือง แตกต่างกันตรงที่ว่า เส้นเลือดนั้นเป็นทางเดินที่ใหญ่กว่า มีน้ำเม็ดเลือด น้ำเลือด น้ำและน้ำเหลือง ส่วนท่อน้ำเหลืองนั้นมีน้ำเหลืองเพียงอย่างเดียว ท่อน้ำเหลืองคือท่อน้ำทิ้งที่คอยรองรับเอาของเสียจากเลือดที่ไหลเวียนอยู่อีกที  ส่วนต่อมน้ำเหลืองเหมือนกับบ่อบำบัดน้ำที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียที่ไหลเวียนมาจากท่อน้ำเหลืองอย่างไม่สิ้นสุด ทำหน้าที่กรองน้ำเหลืองและสกัดกั้นไม่ให้แบคทีเรียและสารแปลกปลอมเข้ามาในเวลาที่เราไม่สลาย เจ้าเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ จึงมากมายจนทะลักล้นบ่อก่อให้เกิดการบวม อักเสบขึ้นมา

   ต่อมน้ำเหลืองไม่มีตัวทำให้ไหลเวียนได้เหมือนเลือด การเคลื่อนที่ของน้ำเหลืองนั้นเกิดจากการขยับกล้ามเนื้อและการถูไถของผิวหนังกังนั้นการนวดหรือกดจุดในบริเวณต่อมน้ำเหลืองจึงเป็นการช่วยระบายถังขยะในร่างกายของเราให้น้ำเหลืองในต่อมน้ำเหลืองนั้นระบายได้ดีขึ้น โดยการกดจุดเพื่อช่วยระบายน้ำเหลืองออกจากต่อมน้ำเหลืองบนใบหน้าเปรียบเสมือนเทถังขยะทิ้งนั่นเอง

ประโยชน์ของการเดรนน้ำเหลือง

-          กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันใต้ผิวหนังบริเวณใบหน้า

-          ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง

-          ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตบนใบหน้าดีขึ้น

-          ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้น

วิธีการเดรนน้ำเหลือง

1.     ใช้ สี่นิ้ว คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย ทั้งสองข้างวางลงกลางหน้าผากแล้วรีดออกด้านข้าง  *ทำแบบนี้  สามครั้ง

2.     ใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้าง วางลงกึ่งกลางระหว่างคิ้วกดและขยับมือขึ้นไปตามจุดจนถึงกึ่งกลางศีรษะ * ทำสามครั้ง

3.     วางนิ้ว สามนิ้ว  (ชี้  กลาง  นาง)  ลงที่หางตาแล้วรีดออกด้านช้าง *ทำสามครั้งเพื่อลบรอยตีนกา

4.     ใช้นิ้ว สามนิ้ว (ชี้ กลาง นาง)  วางลงใต้กระบอกตาทั้งสองข้าง ลากออกข้างสามครั้ง

5.     วางนิ้วสี่นิ้ว ( ชี้ นาง  กลาง  ก้อย) ลงบริเวณข้างจมูกทั้งสองด้านบริเวณใต้โหนกแก้มแล้วรีดออกด้านข้างทั้งซ้ายและขวา ทำสามครั้งเพื่อลดรอยลึกบริเวณร่องแก้ม

6.     วางนิ้วสี่นิ้ว  ลงบริเวณมุมปากทั้งสองด้านแล้วรีดออกซ้าย ขวา เพื่อให้มุมปากไม่ตกตามแรงโน้มถ่วงของโลก

7.     หน้าด้านขวา     วางมือขวาทาบลงปิดหูยึดไว้ ชูนิ้วโป้งชี้ขึ้นและงอนิ้วชี้ลง สอดเข้าใต้ติ่งหู ใต้กระดูกและนิ้วโป้งจะอยู่ด้านบนจากนั้น รีดตามรูปหน้าจนมาจรดติ่งหูอีกด้านหนึ่ง * ทำสามรอบ

8.     หน้าด้านซ้าย    วางมือซ้ายทาบลงปิดหูยึดไว้ ชูนิ้วโป้งชี้ขึ้นและงอนิ้วชี้ลง สอดเข้าใต้ติ่งหู ใต้กระดูกและนิ้วโป้งจะอยู่ด้านบนจากนั้น รีดตามรูปหน้าจนมาจรดติ่งหูอีกด้านหนึ่ง * ทำสามรอบ

Ø ขั้นตอนที่ 4 การยกกระชับหน้า

ประโยชน์ของการยกกระชับปรับรูปหน้า

v ประโยชน์ในด้านความงาม

-          เป็นการดึงเลือดมาเลี้ยงใบหน้า

-          กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้หน้าเต่งตึง

-          หน้าเปล่งปลั่ง ลดริ้วรอย  หน้าใส

-          ยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าให้เต่งตึง เต็มฟู ตามธรรมชาติ

-          ช่วยลดเหนียงที่เป็นชั้นๆใต้คอได้ดีมาก

v ประโยชน์ด้านสุขภาพ

-          ช่วยลดการคัดคั่งของน้ำมูกในโพรงจมูก ไซนัส

-          ช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น สะดวกขึ้น

-          ลดอาการไอ กรน เจ็บคอทอลซิล

-          ช่วยปรับสมดุล อวัยวะภายในร่างกาย(สวยจากภายใน)

*** เคล็ดลับความงาม อยู่ที่ความสม่ำเสมอในการทำทุกวัน เพราะเป็นการยกกระชับปรับรูปหน้าตามธรรมชาติ ไม่ได้ใช้สารเคมี  ไม่ใช่การฉีดโบท็อก

*** ต้องใช้ขณะที่มีเจล 3in 1  หรือคลอโรฟิลล์ ถ้าใบหน้าแห้งต้องเพิ่มน้ำเข้าไปให้ชุ่มชื้นตลอด ***

จุดที่ 1. ใช้อุ้งมือวางบริเวณใต้คางลากขึ้นมาที่หูแล้วใช้มืออีกข้างโกยตามทันที ทำแบบนี้ 10-20 ครั้ง

จุดที่ 2. ทำเช่นเดิมโดยเริ่มโกยที่บริเวณปีกจมูกแล้วโกยขึ้นไปที่หน้าหู

จุดที่ 3. ใช้นิ้วโกยบริเวณหางตาและคิ้วยกขึ้นใช้มือโกยรับกันทีละข้าง  ทำสลับสองข้างทั้งซ้ายและขวา

***จบขั้นตอนก็ทำการล้างทำความสะอาดใบหน้า

ส่วนผสมในการทำสปาสูตรคลอโรฟิวล์

1.     ผง เวกิ-เวร่า    1  ช้อนชา    ช่วยในการขับสารพิษ

2.     นมถั่วเหลือง โรยัลมิกซ์    1 ช้อนชา    เป็นอาหารผิว

3.     ครีมอาบน้ำ ลาวีนทีนผสมชาเขียว  2 หยด   ทำให้ผิวชุ่มชื้น 

-          ช่วยทำความสะอาดผิว

-          ขจัดเซลผิวแห้งหยาบกร้าน

-          ขจัดสิ่งอุดตันรูขุมขนได้อย่างหมดจรด

-          ผลัดเปลี่ยนเซลผิวหนังที่เสื่อมสภาพ

-          รักษาน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ

-          ช่วยเคลือบผิวไม่ทำให้ผิวแห้ง

-          ให้ความชุ่มชื้นเซลผิวป้องกันอันตรายจากมลภาวะต่างๆ

-          ป้องกันเซลผิวตากปฏิกิริยาแอนตี้ออกซิแดนซ์

-          ช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ผิว

4.     ครีมอาบน้ำเด็ก Baby Cinta Tear Free Body Bath ช่วยสมานผิวป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และวิตามินอี ปรับความสมดุลโดยค่า pH Balanced  1-2 หยด

5.     น้ำแร่จากเครื่องกรองน้ำบียอนด์วอเตอร์ 1-2 หยด

6.     กาแฟคอฟฟี่ พลัส ใช้สำหรับสครับหน้า

อุปกรณ์และส่วนผสมของการทำสปาหน้าสูตรคลอโรฟิลล์

สนใจหลักสูตรการสปาหน้าเพื่ออาชีพ ติดต่อได้ที่ นลินรัตน์ 086 9165697  หรือ ID Line: nalinratkongkawe