วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้

     พอเอ่ยชื่อว่านหางจระเข้ทุกคนก็จะร้องอ๋อกันเพราะเห็นปลูกกันเกือบทุกบ้านในต่างจังหวัด เป็นว่านที่นำมารักษาอาการต่าง ๆได้ เช่น
- แผลไหม้พุพอง แผลพุพองจากความร้อนที่ไม่ร้ายแรง แผลที่เกิดจากการทำครัว เช่น น้ำมันลวก น้ำร้อนลวก สามารถบรรเทาได้ง่าย ๆ ด้วยว่านหางจระเข้ โดยเอนไซม์แบรดดีไคเนส (Bradykinase) ในว่านหางจระเข้จะช่วยลดอาการอักเสบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่บริเวณเนื้อเยื่อของแผล ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในบริเวณที่เกิดการไหม้ และแม้จะเป็นแผลที่ง่ายต่อการติดเชื้ออย่างแผลพุพอง ก็วางใจได้เพราะว่านหางจระเข้มีกรดซาลิซิลิก คอยยับยั้งแบคทีเรีย และช่วยสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ ส่วนลิกนินในว่านหางจระเข้ก็เร่งกระบวนการเยียวยาแผลโดยเพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนและสารอาหารในเส้นเลือดของผิวหนังไปยังแผลได้ดีขึ้น
- โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคเริมเป็นโรคจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus: HSV) ที่มักทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ปาก และอวัยวะเพศ ลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ จากนั้นจะแตกออกและอักเสบจนเกิดแผลเจ็บแสบ โดยตัวยาที่มีว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสมจะช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ดี เพราะมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) มีหน้าที่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งเชื้อโรคและลดการอักเสบของโรค
- โรคต่อมไขมันอักเสบ อาการคัน ผื่นแดง เป็นรังแคบนหนังศีรษะ หรือบริเวณที่มีความมันอย่างใบหน้า หน้าอก และแผ่นหลังจากต่อมไขมันอักเสบหรือที่คนไทยติดปากเรียกกันว่าโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่ทางวิทยาศาสตร์พบว่าว่านหางจระเข้ช่วยบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี โดยตัวยาที่มีว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบให้ประสิทธิภาพการรักษาถึงร้อยละ 58 นอกจากนี้ยังพบว่าว่านหางจระเข้ช่วยลดความแห้งหลุดร่วงของผิวหนังที่อักเสบไปในตัวได้ด้วย เนื่องจากมีสารโครโมนซี-กลูโคซีล (C-glucosyl Chromone) ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ และสารชนิดอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่ช่วยรักษาผิวหนังที่แห้งหรือเป็นผื่น และทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดีขึ้น เช่นพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) เอนไซม์แบรดดีไคเนส (Bradykinase) จิบเบอเรลลิน (Gibberellins) และกลูโคแมนแนน (Glucomannan)

สรรพคุณของว่านหางจระเข้ในการลดระดับน้ำตาลและภาวะไขมันในเลือดสูง

- ว่านหางจระเข้ไม่เพียงมีประโยชน์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือด งานวิจัยหนึ่งได้แบ่งคนไข้เบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะน้ำตาลและไขมันในเลือดสูงออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งได้รับแคปซูลว่านหางจระเข้ทุก ๆ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 เดือน ส่วนอีกกลุ่มจะได้รับยาหลอกที่ไม่มีผลใด ๆ ต่อการรักษาในปริมาณเดียวกัน พบว่าผู้ป่วยเบาหวานมีระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด ระดับไขมันในเลือด รวมถึงระดับไขมันชนิดไม่ดีในเลือดลดลง ซึ่งงานวิจัยนี้ศึกษาถึงผลของสารอะซีแมนแนน (Acemannan) ในการช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด สารนี้เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระไฟโตสเตอรอล ซึ่งนักวิจัยได้ทดลองกับหนูที่เป็นเบาหวานแล้วพบว่าไฟโตสเตอรอลจากว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและภาวะไวต่ออินซูลินในหนูที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หากมีงานวิจัยที่ชัดเจนขึ้น ว่านหางจระเข้อาจเป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัยในการช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้

สรรพคุณของว่านหางจระเข้ในการลดภาวะซึมเศร้า

- ว่านหางจระเข้สามารถบรรเทาความหดหู่และความเศร้าได้ เพราะในว่านหางจระเข้มีกรดอะมิโนที่ชื่อว่าทริปโตแฟน (Tryptophan) อันเป็นสารตั้งต้นของเซเรโทนิน (Serotonin) ที่ช่วยป้องกันความเศร้าและความกังวล และดีท็อกซ์สารพิษที่ตกค้างในร่างกายมาเป็นเวลานาน ซึ่งนักวิจัยได้ยืนยันว่าการขับสารพิษในร่างกายนี้จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิต โดยล่าสุดมีการวิจัยทดสอบให้หนูอยู่ในสภาวะสิ้นหวัง เช่น การตกน้ำหรือติดอยู่บนเพดาน จนเกิดอาการซึมเศร้า การวิจัยพบว่าหนูที่ได้กินว่านหางจระเข้เกิดภาวะซึมเศร้าน้อยกว่าหนูที่ไม่ได้รับ อย่างไรก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไปในอนาคตว่าจะมีการทดสอบที่น่าเชื่อถือรองรับว่าว่านหางจระเข้ใช้ลดภาวะซึมเศร้าในคนได้หรือไม่
ว่านหางจระเข้พลิกชีวิต
       เราทราบคุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้กันไปแล้วแต่เราไม่รู้ว่าเราจะสกัดเอามาทำยาได้อย่่างไร
ดิฉันขอแนะนำว่าเราไม่ต้องมาสกัดเองให้ยุ่งยาก เราซื้อที่เขาทำสำเร็จรูปมาแล้วดีกว่าเพราะมีการวิจัย มีการควบคุม ขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ปลูก การเก็บเกี่ยว รวมถึงการผลิต จากโรงงานที่ผ่านมาตรฐานและในที่นี้ดิฉันขอนำเสนอ ยี่ห้อหนึ่งนั่นก็คือ
                                          น้ำว่านหางจระเข้ ALOE VARA JUICE








ปรืมาณสุทธิ 750 cc ราคา 1,080 บาท
 ในน้ำว่านหางจระเข้ประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด เช่น วิตามิน เอ็นไซม์ เกลือแร่ กรดอะมิโน ฯลฯ สารที่มีประโยชน์เหล่านี้ถูกผสมผสานขึ้นอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับความสมดุล ของระบบการทำงานในร่างกาย ซึ่งส่งผลถึงสุขภาพที่ดี เมื่อบริิโภคอย่างสม่ำเสมอ
สรรพคุณสำหรับการรับประทาน
1. ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารทำให้การย่อยอาหารเป็นปกติ
2. ช่วยทำลายเชื้อไวรัส ของผู้ที่เป็นหวัดให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
3. ขจัดต้นเหตุของภูมิแพ้ (รับประทานต่อเนื่อง 2-3 เดือน)
4. ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหาร ฟื้นฟูการทำงานของตับสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
5. ดูดซับและขจัดพิษออกจากร่างกาย 
สรรพคุณสำหรับการใช้ทาภายนอก
  สิว ฝ้า แผลที่เกิดจากความร้อน(ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก) แผลถลอก แผลถูกของมีคม แมลงกัดต่อย ตาปลา  ฟันผุ เหงือกอักเสบ  โพรงปากอักเสบ และมุมปากเปื่อย
ส่วนประกอบ
ว่านหางจระเข้   99.67%
วิตามินซี           0.03%
วิธีรับประทาน 
ป้องกันบำบัดโรค  วันละ 3 แก้วหลังอาหาร มื้อละ 1 แก้ว
บำบัดมะเร็งเนื้องอก  ขั้นที่1-3 วันละ 4 แก้วขึ้นไป ( 120 ซีซี ) ทานต่อเนื่อง 6 เดิอน
บำบัดโรคหอบหืด ภูมิแพ้  วันละ 3 แก้ว (90 ซีซี) หลังอาหาร ต่อเนื่อง 3 เดือน
ผู้ที่ควรแนะนำ
1. ผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารและลำไส้
2. ผู้ที่ท้องผูกเป็นประจำ
3. ผู้มีปัญหานอนไม่หลับ เมารถ เมาเรือ
4. ผู้ป่วยหอบหืด ภูมิแพ้ 
5. ผู้ป่วยมะเร็ง ระยะ 1-3 ใช้ควบคู่กับการรักษาแพทย์ ทานต่อเนื่องประมาณ 6 เดือน

                         
                         ตัวอย่างผู้ที่ป่วยที่รับน้ำว่านหางจระเข้


คนในรูปนี้คือตัวดิฉันเอง
ดิฉันป่วยเป็นโรคไธรอยด์ เป็นก้อนโตที่คอ รักษาโดยการดูดน้ำออกจากต่อมไธรอยด์และก็รับประทานยาควบคู่กันไป ในที่สุดก็ตัดสินใจตัดต่อมไธรอยด์ทิ้งไป 1 ข้างเนืองจากไม่สามารถทำให้ก้อนยุบลงได้อีกทั้งได้รับยามากเกินไปจนมีอาการใจสั้น มือไม้สั่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรงเดิน หลังจากผ่าตัดได้ 5 ปี อาการก็กำเริบอีกครั้ง คราวนี้หนักกว่าเดิม ใจสั่นมาก กินอาหารไม่ได้ หายใจไม่เต็มปอด และเมื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะที่ 1 หมอบอกให้ทำใจเพราะการรักษาค่อนข้างยาก ถ้าฉายแสงก็จะเป็นอันตรายกับอวัยวะสำคัญหลายแห่ง ดิฉันจึงตัดสินใจไม่รักษาทางแพทย์ หันมารักษาทางสมุนไพร และก็ได้ทดลองน้ำว่านหางจระเข้ยี่ห้อนี้ หลังจากรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนก้อนที่คอก็ยุบและไม่โตอีกเลย และเมื่อครบ 6 เดือนก็ไปตรวจหาเซลล์มะเร็งก็ไม่พบ เหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก แต่ก็เกิดขึ้นแล้วกับตัวดิฉันเอง
และมีตัวอย่างผู้ป่วยที่ทานน้ำว่านแล้วดีขึ้นหลายราย












เจลว่านมหัศจรรย์ ทาผิวไหม้แดด หายเป็นปลิดทิ้ง
ว่านหางจระเข้ เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลี่ยม (Lilium) แหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พันธุ์ของว่านหางจระเข้มีมากมายกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้ก็คือ มีใบแหลมคล้ายกับเข็ม เนื้อหนา และเนื้อในมีน้ำเมือกเหนียว ว่านหางจระเข้ผลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะมีสีต่างๆกัน เช่น เหลือง ขาว และแดง เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของมัน
คำว่า "อะโล" (Aloe) เป็นภาษากรีซโบราณ หมายถึงว่านหางจระเข้ ซึ่งแผลงมาจากคำว่า "Allal" มีความหมายว่า ฝาดหรือขม ในภาษายิว ฉะนั้นเมื่อผู้คนได้ยินชื่อนี้ ก็จะทำให้นึกถึงว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้เดิมเป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อนต่อมาได้ถูกนำไปแพร่พันธุ์ในยุโรปและเอเชีย และทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังเกิดกระแสนิยมว่านหางจระเข้กันเป็นการใหญ่
สรรพคุณ :วุ้นในใบว่านหางจระเข้มีสารเคมีอยู่หลายชนิด เช่น Aloe-modin, Aloesin, Aloin, สารประเภท Glycoprotein และอื่นๆ ยางที่อยู่ในว่านหางจระเข้มีสารAnthraquinone ทีมีฤทธิ์ขับถ่ายด้วย ใช้ทำเป็นยาดำ มีการศึกษาวิจัยรายงานว่า วุ้นหรือน้ำเมือกของว่านหางจระเข้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลเรื้อรัง และแผลในกระเพาะอาหารได้ดี เพราะในวุ้นใบว่านหางจระเข้นอกจากจะมีสรรพคุณรักษาแผลต่อต้านเชื้อแบคทีเรียแล้วยังช่วยสมานแผลได้ด้วย
- ใบ - รสเย็น ตำผสมสุรา พอกฝี
-
ทั้งต้น - รสเย็น ดองสุราดื่มขับน้ำคาวปลา
-
ราก - รสขม รับประทานถ่ายโรคหนองใน แก้มุตกิด
-
ยางในใบ เป็นยาระบาย
-
น้ำวุ้นจากใบ - ล้างด้วยน้ำสะอาด ฝานบางๆ รักษาแผลสดภายนอก น้ำร้อนลวก 
ไฟไหม้ ทำให้แผลเป็นจางลง ดับพิษร้อน ทาผิวป้องกันและรักษาอาการไหม้จากแสงแดด ทาผิวรักษาสิวฝ้า และขจัดรอยแผลเป็น
-
เนื้อวุ้น - เหน็บทวาร รักษาริดสีดวงทวาร
-
เหง้า - ต้มรับประทานแก้หนองใน โรคมุตกิด
คุณสมบัติว่านหางจระเข้ ในเครื่องสำอาง 
ปัจจุบัน มีเครื่องสำอางที่เตรียมขายในท้องตลาดหลายารูปแบบ เช่น ครีม โลชัน แชมพู และสบู่ สำหรับสาระสำคัญที่สามารถรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก และอื่นๆ นั้น ได้ค้นพบว่าเป็นสาร glycoprotein มีชื่อว่า Aloctin A เป็น Anti-inflammatory พบในทุกๆ ส่วนของว่านหางจระเข้
- วุ้นจากใบสดชโลมบนเส้นผม ทำให้ผมดก เป็นเงางาม และเส้นผมสลวย เพราะวุ้นของว่านหางจระเข้ทำให้รากผมเย็น เป็นการช่วยบำรุงต่อมที่รากผมให้มีสุขภาพดี ผมจึงดกดำเป็นเงางาม นอกจากนั้นแล้ว ยังช่วยรักษาแผลบนหนังศีรษะด้วย
- รักษาผิวเป็นจุดด่างดำ ผิวด่างดำนี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอายุมาก หรือถูกแสงแดด หรือเป็นความไวของผิวหนังแต่ละบุคคล ใช้วุ้นทาวันละ 2 ครั้ง หลังจากได้ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสะอาด ต้องมีความอดทนมาก เพราะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ จึงจะหายจากจุดด่างดำ แต่ถึงอย่างไรก็ดี ควรใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ทา จะทำให้ผิวหนังมีน้ำ มีนวลขึ้น
- รักษาสิว ยับยั้งการติดเชื้อ ช่วยเรียกเนื้อ ช่วยลดความมันบนใบหน้า เพราะในใบว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ
- โรงพยาบาลรามาธิบดี กำลังลองใช้กับคนไข้ที่เป็นแผล เกิดขึ้นจากนั่ง หรือนอนทับนานๆ
เครดิต : โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และวิกิพีเดีย


ไอริสโซเฟียอโลเวร่า เจล
เป็นเจลว่านหางจระเข้ที่ผลิตขึ้นจากเนื้อว่านหางจระเข้สด จากพันธ์ุบาบาเดนซิล มิล ที่ไม่ได้ผ่านขบวนการแปรรูปซึ่งแตกต่างจากเจลว่านหางจระเข้ในท้องตลาดทั้งหมด ตรงที่เจลว่านในท้องตลาดล้วนทำขึ้นมาจากผงที่สกัดด้วยวิธีสเปรดายล์ หรือฟรีซดายล์ ซึ่งเป็นการแปรรูปว่านหางจระเข้มาแล้วทำให้เกิดการสูญเสียคุณสมบัติไปแล้วส่วนหนึ่ง
สำหรับไอริสโซเฟียอโลเวร่า เจล ใช้เทคโนโลยีระบบ Ultrasonic attack System เป็นกรรมวิธีในการทำผนังเซลล์ของเนื้อว่านหางจระเข้แตกออกด้วยคลื่นไฟฟ้า ทำให้เกิดเซลล์อนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก เพื่อให้สารที่มีประโยชน์ ในว่านหางจระเข้กระจายตัวออกมาและสามารถแทรกซึมผ่านเนื้อผิวหนังของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยให้สารที่มีประโยชน์ในว่านหางจระเข้ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่
ไอริสโซเฟียอโลเวร่า เจล ผสมโคเอ็นไซม์คิวเทนและวิตามิน C จึงเป็นเจลว่านหางจระเข้ที่ยังคงคุณค่า เสมือนเนื้อว่านจากต้นว่านหางจระเข้สดแท้ รวมทั้งผสมโคเอ็นไซม์คิวเทนและวิตามินC
ประโยชน์ของไอริสโซเฟีย อโลเวร่า เจลผสมโคเอ็นไซม์คิวเทนและวิตามินC
-
ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก
-
ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและอ่อนนุ่ม
-
กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
-
ป้องกันการเกิดริ้วรอย
-
ป้องกันการเกิดสิว
-
ลบรอยแผลเป็นจากสิว
-
ลดอาการระคายเคืองจากการแพ้สารพิษ และพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
-
ลดอาการแสบร้อนจากน้ำร้อนลวกไฟไหม้
-
ชะลอการทำลายผิวจากแสงรังสีอัลตร้าไวโอเลต
-
ช่วยในการสมานแผลและทำให้แผลหายเร็ว
-
ใช้ทำสปาหน้าโดยการนวดเบาๆ ก่อนนอนไม่ต้องล้างออก
https://www.facebook.com/images/emoji.php/v9/fac/1/16/1f4cc.png📌เพื่อความปลอดภัยของท่านโปรดตรวจสอบใบจดแจ้งให้ถูกต้อง
https://www.facebook.com/images/emoji.php/v9/fcc/1/16/1f4dd.png📝เลขจดแจ้ง10-1-5204865


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นลินรัตน์  064-2499483  086-9165697
ไอดีไลน์ 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น