วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สาเหตุที่ทำให้คนหยุดทำเครือข่าย

สาเหตุหลัก ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นเลือกที่จะหยุดการทำธุรกิจเครือข่าย ซึ่ง สาเหตุนั้นเป็นสาเหตุเดียวกันกับสาเหตุที่ผู้คนหยุดทำสิ่งที่พวกเขากำลังทำ อยู่ด้วย ไม่ใช่เฉพาะในธุรกิจเครือข่าย สาเหตุนั้นก็คือการหยุดพักจากการลงมือทำนั่นเอง ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่มีการหยุดพัก จะด้วยเหตุจำเป็นใด ๆ ก็ตาม และผู้คนเหล่านั้นใช้เวลาในการหยุดพักนานเกินไป ก็จะทำให้การกลับมาลงมือทำนั้นเป็นไปได้ยากมาก การทำธุรกิจเครือข่ายสิ่งที่ยากที่สุด คือการสร้างโมเมนตั้มของความสำเร็จ กล่าว คือการที่เราจะประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายอย่างสูง เราจำเป็นต้องสะสมความสำเร็จเล็ก ๆ เป็นจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จจากการชวนคนเข้าฟังแผนธุรกิจ ความสำเร็จจากการชักชวนผู้คนเข้าร่วมธุรกิจเป็นต้น แต่เมื่อเราหยุดการสร้างโมเมนตั้ม นั่นจะทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะหยุดทำธุรกิจเครือข่ายได้เช่นเดียวกัน
แล้ววิธีการที่จะกลับมาจากการจำเป็นต้องหยุดเป็นเวลานาน ๆ คืออะไร ?
คำตอบคือการลงมือทำ ก็แค่ลงมือทำ ลงมือทำถึงแม้เสียงในหัวของพวกเราจะบอกว่าอะไรก็ตาม แต่เพราะการลงมือทำนั่นเองที่จะทำให้ทุกคนได้รับผลสำเร็จตามที่ปรารถนาได้  Quiter never win ผู้ล้มเลิกย่อมไม่มีทางชนะ เพราะฉะนั้น อย่าหยุดการลงมือทำครับ ความสำเร็จนั้น รอพวกเราอยู่ไม่ไกล

 คำพูดว่าเดี๋ยวก่อน คือะไร ?
นิสัยอย่างหนึ่งของคนเราที่มีอยู่ในการสนทนากันก็คือ พยายามค้นหาข้อบกพร่องของอีกฝ่ายหนึ่งในเรื่องที่คุยกันแล้วแสดงให้เขาทราบว่าเขาผิดตรงจุดไหน บางทีเรื่องที่อาจมีความสำคัญมากกว่าก็คือ หลายคนไม่ชอบใจนักกับความรู้สึกที่ว่าตน ถูกขายของให้ แต่ต้องการมีความรู้สึกว่าตน ซื้อของมากกว่า และเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยัดเยียด คนเหล่านี้จึงต้องหน่วงเหนี่ยวเรื่องเอาไว้ด้วยการมีข้อโต้แย้งบ้างสักข้อสองข้อ
 ภารกิจของเราในฐานะของนักธุรกิจเครือ ข่ายคือ การกระตุ้นให้เกิดการซื้อขึ้นมาให้ได้ในที่สุด ลองมองดูในอีกแง่มุมหนึ่งคุณจะต้องพยายามเปลี่ยนคำว่า ไม่ให้เป็นคำว่า ซื้อเดี๋ยวนี้ให้ได้ เคย มีผู้กล่าวไว้ว่า แท้ที่จริงแล้วการปฏิเสธก็คือ เครื่องหมายบนถนนที่นำไปสู่การขายที่สมบูรณ์ หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือคุณได้เดินมาตามทางที่ถูกต้องแล้ว ลูกค้ากำลังคอยฟังอยู่ และอาจต้องการเพียงการจูงใจบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ผู้ขายที่มุ่งไปยังเป้าหมายอย่างแน่วแน่ย่อมไม่มีวันพบกับทางตัน และจะต้องมองออกว่าคำปฏิเสธนั้นปฏิเสธที่ประเด็นไหน จงตอบคำถามให้เรียบร้อย ต่อจากนั้นจึงดำเนินการต่อไปจนปิดการขาย
และต่อไปนี้คือตัวอย่างการปฏิเสธบางประการที่อ.มีประสบการณ์มาถ่ายทอดให้พร้อมกับวิธีการแก้ปัญหาเพื่อให้ได้รับคำตอบว่า ตกลงซื้อเดี๋ยวนี้
 ลูกค้ายังไม่ค่อยแน่ใจในตัวคุณหรือบริษัท
ชีแจงภูมิหลังทั้งของเราและของบริษัทให้ เขาฟัง เล่าเรื่องประวัติและการเติบโตของบริษัท เรื่องราวความสำเต็จที่มีลูกค้าคนใดคนหนึ่งชอบใจผลิตภัณฑ์มาก และถ้าเป็นไปได้ขอให้ลูกค้าโทรไปสอบถามจากเขาดูก็ได้
 ลูกค้ามองไม่เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีคุณค่าตรงจุดไหน
แสดงให้เห็นคุณประโยชน์ด้วยการสาธิตการ ใช้งาน ทำให้เห็นว่าการใช้และการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ และน่าพึงปรารถนา
 ลูกค้าไม่ต้องการเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์เดิมที่ใช้อยู่
จุดความรู้สึกว่า จะต้องทำเดี๋ยวนี้ขึ้นมาช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจว่าการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนนี้คือ สิ่งที่ดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงความประหยัด คุณประโยชน์ และข้อได้เปรียบอื่นๆ
 ลูกค้ารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของคุณแพงเกินไป
ตอบข้อโต้แย้งนี้ด้วยเรื่องของการ รับประกันความพอใจและการบริการ ซึ่งจะช่วยให้เห็นว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล อาจต้องมีการแสดงการเปรียบเทียบมูลค่าให้เห็นชัด ๆ จงทำให้ลูกค้าตระหนักว่าการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณค่ายิ่งกว่าการ เก็บเงินส่วนที่เกินนั้นไว้อย่างมากมาย
 ลูกค้าชอบผลิตภัณฑ์ แต่ต้องการรอไปก่อน
จงหาทางทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นทันทีใน ขณะที่คุณอธิบายว่า อาจมีสิ่งอื่นๆ เกิดขึ้นซึ่งคุณไม่อาจทราบได้ล่วงหน้า เรื่องเช่นนั้นมักจะเกิดขึ้นเสมอ และนั่นคือเหตุผลที่คุณไม่ควรรั้งรอ ผมทราบว่าคุณต้องการผลิตภัณฑ์นี้และจำเป็นจะต้องใช้มัน เราควรจะทำอะไรลงไปตอนนี้เลยดีกว่าขณะที่ผมยังช่วยคุณได้สิ่งที่ต้องจำให้ดีก็คือ ถ้าลูกค้ายังคงยืนยันว่า ไม่เป็นครั้งสุดท้าย จงอย่าเซ้าซี้ ให้กล่าวคำขอบคุณ แล้วค่อยมาติดตามผลภายหลังด้วยการให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ อื่นๆ อีกต่อไป
ทั้งหมดเหล่านี้ ขอให้พวกเรานำไปใช้นะ รับรองผลได้เลยว่าสำเร็จชัวร์
นลินรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น