วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

MLM กับบทเรียนชีวิต 5 บุคลิกภาพเชิงบวก(ต่อ)

ทำงานให้คืบหน้าไปกับคนไม่ยอมใคร
บุคลิกพื้นฐานของคนไม่ยอมใคร คือ รวกเร็ว ควบคุม บัญชาการ มั่นใจในตัวเอง มุ่งมั่นสูง ครอบงำ รับผิดชอบ ตัดสินใจ ออกคำสั่ง ทุ่มสุดตัว สุดขั้ว มีทิศทาง พลัง อำนาจ สมบูรณ์แบบ มองโลกในแง่ดี ชอบพบปะผู้คน คนไม่ยอมใครจะทำงานได้มากกว่าคนที่มีพื้นฐานอารมณ์แบบอื่นๆ เขาจะมีจุดยืนที่ชัดเจน และไปสู่สุดสูงสุดของอาชีพที่เขาเลือกได้เสมอ
- เกิดมาเป็นผู้นำ  คนที่เกิดมาเป็นผู้นำจะสามารถบอกคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่เด็กเลยว่าเขอยากจะเป็นอะไร และคาดหวังอะไรจากชีวิตบ้าง พวกเขาจะเรียกร้องสิทธิตั้งแต่ยังตัวน้อย โดยจะใช้เสียงดังข่ม หรือแสดงอารมณ์เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการควบคุม ตัวอย่างเช่น ลอเรนลูกสาวของผู้เขียน สามารถดูแลความสะอาดของบ้าน และน้องสาวได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เมื่อเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กก็สามารถดูแลเพื่อนได้เวลาที่ครูไม่อยู่ เธอเป็นหัวหน้านักเรียนของโรงเรียน และได้เรียนต่อปริญญาตรีจนจบสาขาจิตวิทยาและธุรกิจ
- จำเป็นต้องเห็นการเปลี่ยนแปลง   คนไม่ยอมใครมักเปลี่ยแปลงสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าไม่เข้ารูปเข้ารอย พวกเขาจะหาต้นสายปลายเหตุและวางแผนการเพื่อทำให้ทุกอย่างถูกต้องสมควร ในขณะที่คนอื่นๆยังไม่สามารถตัดสินใจได้ คนไม่ยอมใครจะตัดสินใจอย่างฉับพลันทันใด แก้ปัญหา และไม่ยอมให้เสียเวลา แม้ว่าการตัดสินใจนั้นอาจไม่เป็นที่พอใจนักก็ตาม คนไม่ยอมใครจะรับบทหนักในชีวิตประจำวัน ต้องตอบคำถาม คอยชีนำว่าวันนี้จะทำอะไรกันต่อ พวกเขาจึงไม่เป็นที่นิยมชมชอบนักเพราะว่าการที่เป็นคนยืนกรานและยึดมั่นในความคิดเห็นของตัวเองนั้น มักทำให้คนอื่นรู้สึกไม่มั่นคง
- ทำอะไรก็ได้    คนไม่ยอมใครทำอะไรก็ได้ไม่ว่าเขาจะมีความรู้ในเรื่องนั้นๆหรือไม่ เรื่องยากของคนไม่ยอมใครก็คือคอยเตือนตัวเองไม่ให้เข้าไปวุ่นวายกับปัญหาของคนอื่น เพราะตนไม่ยอมใครมักพยายามหาทางแก้ปัญหาและข้อผิดพลาดของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าบางเรื่องอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย
- มุ่งสู่เป้าหมาย คนไม่ยอมใครจะสนใจในหนทางที่จะนำพาไปสู่เป้าหมายแทนที่จะมาคอยเอาใจคนรอบข้าง จุดนี้มองได้ว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะคนไม่ยอมใครนั้นจะถึงจุดหมายได้เพียงลำพัง
- มีระเบียบแบบแผน บางคนอาจเห็นว่าการเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนนั้นคือคนเรื่องมาก แต่การมีระเบียบวินัยก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายง่ายขึ้น
- กระจายงาน เมื่อคนไม่ยอมใครรู้ว่าความช่วยเหลือหรือทรัพยากรที่เขาจะพึ่งพาได้นั้นอยู่ที่ไหน เขาจะแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ ให้แต่ละคนรับผิดชอบ ให้กับคนที่ว่างอยู่ทำทันที
- ชอบเอาชนะการแข่งขัน คนไม่ยอมใครไม่เพียงอยากบรรลุเป้าหมาย แต่หากใครมาทักว่าพวกเขาไม่มีทางทำสำเร็จเขาจะมองว่านั่นแหละคือความท้าทายที่จะเอาชนะคำพูดนั้นให้ได้ และจะจดจ่ออยู่กับเป้าหมายและมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา
- ไม่ค่อยมีเพื่อนมาก พวกเขาจะมองว่าการไปเสียเวลาเสวนะเรื่องไร้สาระเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ แต่จะยินดีเข้าร่วมกิจกรรมที่มีสาระ เช่นการหาเงินเข้ากองทุน
- มักจะเป็นฝ่ายถูก คนไม่ยอมใครมักจะแสดงความคิดเห็นเมื่อเขามั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูกแน่ๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เด่นมากๆของคนประเภทนี้
- จัดการสถานการณ์เร่งด่วนได้ยอดเยี่ยม คนไม่ยอมใครชอบแก้ไขสถานการณ์ เพื่อที่ว่าจะได้เอาชนะอุปสรรคที่ไม่ได้ตระเตรียมมาก่อน
  ผ่อนคลายกับคนประเภทอะไรก็ได้
คนประเภทนี้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นกันชนสำหรับคน 3 ประเภทข้างต้น คนอะไรก็ได้ละทำหน้าที่คานอำนาจของคนทุกกลุ่ม ให้สมดุลกลมกลืนเป็นภาพที่น่าตื่นเต้น
                                - สารพัดประโยชน์  เป็นคนประเภทที่เข้ากับคนได้ง่ายที่สุด สามารถรับเงื่อนไขของความยืดหยุ่นได้ ปรับตัวได้ในทุกๆสถานการณ์ มีสมดุลในตัวเองมากที่สุดเมื่อเทียบกับคนประเภทอื่นๆ ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสุกโต่งไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม แต่เดินด้วยความมั่นคง ยึดทางสายกลางเลี่ยงการปะทะ ความขัดแย้ง การตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่ง ไม่ชอบการต่อสู้ ไม่ชอบเรียกร้องความสนใจ หากมีแรงจูงใจที่ดีก็จะสามารถไปถึงจุดมุ่งหมายได้ คนอะไรก็ได้ไม่ชอบที่จะต้องบังคับให้ใครทำอะไร เป็นหัวหน้าที่ดี ใครๆก็อยากเป็นลูกน้องเพราะไม่สร้างแรงกดดันหรือวิจารณ์ใครแรงๆ และสามารถไกล่เกลี่ยสถานการณ์ตึงเครียดได้ดี
                                - ไม่ชอบมีบทบาทก่อน  คนประเภทนี้เป็นมิตรและไม่ชอบโต้แย้งกับใคร ไม่ชอบเป็นผู้นำ ไม่ต้องการมีบทบาทเด่น และไม่ต้องการให้ตัวเองดูแย่ในสายตาคนอื่น
                                - อะไรก็ได้ คนอะไรก็ได้จะไม่คิดไกล หรือวางแผนสวยหรู จะยอมรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างเงียบๆ แทนที่จะพยายามเปลี่ยนแปลง
                                - สงบ เยือกเย็น และควบคุมสติได้ คนอะไรก็ได้มีความสามารถที่จะสงบนิ่ง ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะรุนแรง เขาจะค่อยๆสำรวมรอเวลา และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
                                - อดทนและมีมาด เขาไม่เคยปล่อยให้สถานการณ์รอบข้างมาเปลี่ยนบุคลิกของตน จะอดทนแม้จะถูกยั่วให้โกรธก็ตาม
                                - กลมกลืนอย่างมีความสุข เนื่องจากไม่ได้มีความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาจึงสามารถปรับตัว ประนีประนอมกับเหตุการณ์ต่างๆได้ โดยพื้นฐานแล้วเขามักจะมองโลกในแง่ค่อนข้างร้ายแต่จะมองความเป็นไปต่างๆอย่างสมเหตุสมผล พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับความจริงที่เกิดขึ้น
                                - มีความสามารถในการบริหารจัดการ  เขาจะมีความสม่ำเสมอ เข้ากับคนได้ง่าย ซึ่งการบริหารจัดการของคนอะไรก็ได้มีพื้นฐานมาจากความต้องการสร้างความสามัคคี
                                - ไกล่เกลี่ยปัญหา คนอะไรก็ได้จะมองภาพจากมุมของคนอื่น และหาคำตอบให้กับสถานการณ์ด้วยความสุขุม เยือกเย็น และรอบคอบ คนประเภทนี้จะเป็นคนไม่มีศัตรู
                                - เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพราะคนอะไรก็ได้เป็นคนไม่เรื่องมากสบายๆ และมักจะยอมตามคนอื่น และในขณะเดียวกันคนบุคลิกแบบอื่นๆ ก็ต้องการคนแบบนี้แหละมาตอบสนองพื้นฐานอารมณ์ของตัวเอง
                                - มีเพื่อนมาก คนอะไรก็ได้เป็นเพื่อนกับทุกคนได้ดีที่สุดเพราะเป็นคนง่ายๆ สงบ ใจเย็น อดทน สม่ำเสมอ ไม่ชอบทะเลาะเบาะแว้ง และน่ารัก
                                - เป็นผู้ฟังที่ดี  คนอะไรก็ได้มักเป็นคนฟังแทนที่จะเป็นคนพูด สามารถนั่งอยู่เงียบๆโดยไม่พูดซักคำเดียว

            วางแผนเพื่อปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเอง(หนทางเอาชนะข้อด้อยของตัวเอง)
                                การมีคุณสมบัติที่พึงประสงค์มากเกินไป บางครั้งก็ไม่เป็นสิ่งดี จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นหากเราสามารถค้นหาข้อเด่นของตัวเองและใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาดจากพื้นฐานที่เรามีอยู่ แต่ทุกคนล้วนมีข้อด้วยที่น่าเศร้าอยู่ด้วย หากไม่ได้รับการดูแลก็อาจนำไปสู่ความลมเหลวของชีวิตได้เช่นเดียวกัน เราจึงควรหาข้อด้อยนั้นให้เจอก่อนที่มันจะสายเกินไป

            มาช่วยกันจัดระเบียบให้คนร่าเริงกันเถอะ
คนร่าเริงมีปํญหา 2 ข้อใหญ่ที่ต้อการการแก้ไข คือ
1.       ไม่ชอบติดตามผล คนร่าเริงมีเจตนาที่ดี แต่ไม่ชอบติดตามผลในสิ่งที่ได้รับปากไว้
2.     ไม่ยอมรับผิด คือ จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าตัวเองมีข้อผิดพลาด จึงไม่เอาจริงเอาจังในการสำรวจข้อผิดพลาดของตัวเอง

           
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนร่าเริง
1.       คนร่าเริงพูดมากเกินไป
ทางแก้ที่ 1 : พูดให้น้อยลงครึ่งหนึ่ง
ให้พยายามลดบทบาทการพูดของตัวเองลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยพูด โดยลดจำนวนเรื่องที่อยากจะเล่าลง ไม่ว่าเรื่องที่ไม่ได้เล่านั้นจะสนุกสนานตื่นเต้นเพียงใดก็ตามก็ต้องควบคุมตนเองให้ได้
                                ทางแก้ที่ 2 : เฝ้าดูสัญญาณของความเบื่อหน่าย
คนร่าเริ่งอาจไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองอาจน่าเบื่อ ดังนั้นจึงต้องลองสังเกตความเบื่อหน่ายจากผู้ฟัง เช่น ชะเง้อหาคนอื่น เขย่งขา สบตากับคนอื่น นั่นคือเขาเริ่มเบื่อแล้ว
                                ทางแก้ที่ 3 : ย่อความเห็นของคุณเสียบ้าง
พยายามพูดให้ตรงประเด็น อย่าขยายให้เยิ่นเย้อเพราะจะทำให้คนอื่นสูญสิ้นความสนใจ
                                ทางแก้ที่ 4 : เลิกพูดเกินจริง
แม้ว่าเรื่องเล่าของคนร่าเริงจะสนุกสนานเพียงไร แต่ก็ไม้ควรบอกเล่าเรื่องราวจนเกินเหตุ ทำให้เลยไปถึงขั้นโกหก เพราะจะทำให้คนร่าเริงไม่มีบุคลิกที่น่าเชื่อถืออยู่เลย
2.       คนร่าเริงยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
                                ทางแก้ที่ 1 : ใส่ใจกับความสนใจของคนอื่น
คนร่าเริงจะหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง โดยไม่สังเกตว่าตนอื่นจะร่วมสนใจด้วยหรือไม่ จึงควรเรียนรู้ที่จะใส่ใจคนอื่น โดยเริ่มต้นที่การหัดฟังและมองอย่างพินิจพิเคราะห์ ลองเข้าร่วมกลุ่มสนทนา และลองฟังการสนทนานั้นอย่างเงียบๆ ละรู้จักที่จะใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น
                                ทางแก้ที่ 2 : หัดเป็นผู้ฟังที่ดี การฟังเป็นมารยาทที่สง่าจึงควรมรติดตัวไว้
3.       คนร่าเริงมักไม่เรียนรู้ที่จะจำ
ทางแก้ที่ 1 : พยายามจำชื่อคนให้ได้
ต้องเริ่มให้ความสนใจกับคนอื่นมากขึ้น มองผู้คนรอบกายเมื่อเขาแนะนำคัว ถามเรื่องราวชีวิตของพวกเขาจนกระทั่งรู้สึกว่ารู้จักพวกเขาจริงๆ เริ่มสนใจคนอื่นบ้างแทนที่จะสนใจแต่ตัวเอง
                                ทางแก้ที่ 2 : จด
คนร่าเริงมีความจำที่แย่ พวกเขาจึงควรเขียนรายการว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และเก็บรายการที่จดไว้ ระวังไม่ให้หาย หากต้องไปพบใครอย่างเป็นทางการต้องแน่ใจก่อนว่าจะไปพบใคร เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่พูด ก่อนที่จะไปพบกับคนเหล่านั้น  
                                ทางแก้ที่ 3 : อย่าลืมเด็กๆ 
อย่าเป็นอย่างคนร่าเริงบางคนที่ลืมลูกตัวเองไว้ที่ปั๊มน้ำมัน 

4.       คนร่าเริงมักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และเป็นเพื่อนที่ขี้ลืม
ทางแก้ที่ 1 : อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นคนมามิตรภาพที่ดีนั้นมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
พยายามสร้างวินัยในการพบปะกันทุกๆสัปดาห์กับเพื่อนหากบ้านอยู่ใกล้ เพราะมิเช่นนั้นอาจห่างเหินกันได้ คนร่าเริงก็เช่นเดียวกันเขาจะห่างเหินออกไปหากเราต้องการความช่วยเหลือ
                                ทางแก้ที่ 2 : ใส่ใจกับความต้องการของคนอื่นก่อน
ควรใช้ความพยายามในการที่จะเป็นเพื่อนแท้กับใครสักคนให้มากขึ้น และมีวินัย ปฏิบัติตนให้ถูกกาลเทศะ
5.       ปัญหาคนร่าเริงมักขัดจังหวะสนทนาและตอบคำถามแทนคนอื่น
                ทางแก้ : อย่าคิดว่าเป็นหน้าที่ของคุณคนเดียวที่ต้องตอบคำถามหรืออุดช่องว่างของ
                                วงสนทนา
 ให้พยายามคิดเสมอว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง และ ความเงียบไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งไม่ดี
6.       ปัญหาคนร่าเริงไม่ค่อยมีระเบียบ
ทางแก้ที่ 1 : รวบรวมสมาธิและตั้งสติให้ดี
ควรลงมือทำงานก่อนความสนุก และสร้างระเบียบในการทำงานของตัวเอง
                                ทางแก้ที่ 2 : เป็นผู้ใหญ่เสียที
ความเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นกับความรับผิดชอบ การวางแผนที่เป็นไปได้ และทำตามอย่างจริงจัง
คงจะพอแก้ปัญหากันได้นะคะ
นลินรัตน์  ID Line  : nalinratkongkaew



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น