วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

MLM กับบทเรียนชีวิต 8 การฝึกคิดสองด้าน

โดยธรรมชาติแล้วคนเรามีความรู้สึกอยู่ 3 สถานะคือ
ความรู้สึกด้านบวก(Positive) ความรู้สึกกลุ่มนี้ เป็นความคิดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ สิ่งของหรือคนที่ทำให้เรารู้สึกดีใจ ปลื้มใจ ภูมิใจ เช่น เหตุการณ์ในวันที่เรารับปริญญา เหตุการณ์ในวันที่เราบวช แต่งงาน มีลูกคนแรก ฯลฯ เหตุการณ์เหล่านี้มักจะอยู่กับเรานาน นึกทีไรก็จำได้แม่นยำและชัดเจน เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็จำได้ เช่น ถามว่าวันเกิดของเราคือวันที่เท่าไหร่ วันที่ลูกเราคลอด วันที่เราเข้างานที่แรก วันที่เรารับปริญญา ฯลฯ
ความรู้สึกที่เป็นกลาง(Neutral) ความรู้สึกกลุ่มนี้ เป็นความคิดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ สิ่งของหรือบุคคลที่เข้ามาในชีวิตเราแต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อจิตใจเราทั้งเชิง บวกและเชิงลบ เช่น เราเดินผ่านศูนย์การค้า รถยนต์วิ่งไปมาบนถนน ฝนตกฟ้าร้อง เราเดินไปทานข้าวกลางวัน ฯลฯ เหตุการณ์ในกลุ่มนี้จะอยู่กับเราไม่นาน ไม่กี่วันก็ลืมเลือนไป เพราะมันไม่ถูกบันทึกลงในความจำของเราที่เป็นความจำส่วนลึก
ความรู้สึกด้านลบ(Negative)  ความ รู้สึกในกลุ่มนี้ เป็นความคิดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ สิ่งของหรือคนที่ทำให้เรารู้สึกเสียใจ เศร้าใจ ทุกข์ เช่น วันที่เราเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล วันที่เราสูญเสียคนที่เรารัก วันที่เราทะเลาะกับหัวหน้าคนเก่าอย่างรุนแรงจนถูกไล่ออกจากงาน ฯลฯ เหตุการณ์เหล่านี้จะอยู่กับเรานานมาก และที่สำคัญคือมันจะนึกได้เร็วและมาเร็วมาก และลืมได้ยากมาก บางเรื่องบันทึกติดตัวไปตลอดชีวิต
เมื่อชีวิตเราบันทึกสิ่งที่เป็นบวกและเป็นลบ แต่ไม่ค่อยบันทึกสิ่งที่เป็นกลาง ก็เท่ากับว่าเวลามีเหตุการณ์อะไรเข้ามาในชีวิตเรา เราก็จะไปค้นหาว่าเราเคยเจอเคยพบเหตุการณ์นี้มาก่อนหรือไม่ ถ้าเราเคยพบมาก่อนมันก็จะค้นต่อไปอีกว่าเป็นประสบการณ์เชิงบวกหรือเชิงลบ ถ้าสิ่งที่เราบันทึกไว้เป็นเชิงลบ เราก็จะคิดลบกับสิ่งที่เข้ามากระตุ้นเราในขณะนั้นๆ เช่น เราเจอคนมีหนวดเดินเข้ามาคุยกับเรา แว๊บแรกที่เราเห็นเขาสมองเราก็เริ่มกลับไปค้นหาว่าในอดีตเราเคยมีประสบการณ์ เจอคนมีหนวดบ้างหรือไม่ ถ้าส่วนใหญ่คนมีหนวดที่เราเคยเจอเป็นคนไม่ดี แน่นอนว่าความคิดลบของเราเกิดขึ้นมาทันที
ดังนั้น ประสบการณ์ในอดีตจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนเป็นคนคิดบวกหรือคิดลบ ถ้าเรามีสิ่งที่เป็นลบและเป็นลบในระดับที่เท่าๆกัน ความคิดลบจะวิ่งเร็วกว่าความคิดบวก เพราะเป็นสิ่งที่คิดง่ายกว่า เป็นสิ่งที่อยู่ตื้นกว่า เป็นสิ่งที่เราดึงมันออกมาใช้บ่อยกว่า
ถ้าใครต้องการที่จะฝึกให้ตัวเองมีความคิดเชิงบวก อันดับแรกควรจะต้องฝึกคิดสองด้านควบคู่กันไปก่อน เช่น วันไหนเจอเหตุการณ์อะไร ขอให้ฝึกคิดทั้งสองด้าน เช่น วันนี้เราเจอหัวหน้าตำหนิ แน่นอนว่าความคิดลบคงจะออกมาก่อน เราอาจจะคิดว่าหัวหน้าไม่ชอบเรา กลั่นแกล้งเรา ฯลฯ แต่ขอให้เราลองพยายามคิดอีกด้านหนึ่งคือด้านบวกด้วย อาจจะคิดว่าเขาตำหนิเราเป็นเพราะเขาหวังดีกับเราอยากให้เราได้ดี เขาตำหนิเราก็เพราะเราผิดจริงๆด้วย ก็ดีจะได้รู้ว่าเราผิดตรงไหน เพราะวันข้างหน้าเราจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ฯลฯ
เมื่อคุ้นเคยกับการคิดสองด้านแล้ว ค่อยๆเพิ่มน้ำหนักให้กับการคิดเชิงบวก และสุดท้ายเราจะสามารถคิดเชิงบวกได้กับทุกสถานการณ์ได้โดยอัตโนมัติ ค่ะ
นลินรัตน์ ID lLine :nalinratkongkaew

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น