วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

MLM กับบทเรียนชีวิตตอน 4 บุคลิกภาพเชิงบวก (Personality Plus

 เราไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนเรา เป็นแบบนี้...

-        การไม่มีใครเหมือนใคร คนเราต่างเกิดมาพร้อมกับข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ไม่มีสูตรสำเร็จใดที่ใช้ได้กับคนทุกคน เพราะแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคลที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในรูป แบบที่แตกต่างกันไป
-
       สิ่งที่อยู่ภายในต่างหากที่มีความหมาย  ไม เคิล แองเจโล สามารถเลือกหินอ่อนที่จะนำมาแกะสลักได้ ปรับแต่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบได้แต่มาสามารถเปลี่ยนแปลงความเงางามของวัตถุดิบ ได้เพราะหินแต่ละแบบล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมัน
-
       ทุกๆคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรา สามารถเข้าใจตัวเองว่า เราถูกสร้างมาจากอะไร เราเป็นใครกันแน่ ทำไมเราถึงทำสิ่งต่างๆอย่างที่เราทำ จุดแข็งของตัวเราเองที่จะเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นมีอะไรบ้าง จุดอ่อนของตัวเราเองที่จะต้องการจะเอาชนะมีอะไรบ้าง
-
       เราไม่ได้พยายามตะหนักถึงความเป็นจริงที่ว่าคนที่ไม่เหมือนเรา เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเราไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงใครให้เหมือนเรา เพราะเราเองก็ไม่เหมือนผู้อื่น
ดิฉันจะขอแบ่งบุคลิกภาพของคน ที่สามารถแบ่ง บุคลิกภาพของคนออกเป็น ดังนี้
1. ร่วมสนุกกับคนร่าเริงกันเถอะ  โลกนี้จำเป็นต้องมีคนร่าเริงอยู่เพื่อ...ความสุขในเวลาที่มีปัญหา  ความไร้เดียงสาในยุคที่ผู้คนตรากตรำ  ความฉลาดในเวลาที่อ่อนแรง  อารมณ์ขันพลันที่ใจเหนื่อยล้า   แสงแห่งความหวังที่ขับเมฆดำให้ผ่านพ้นไป  แรงกายแรงใจให้มีกำลังเริ่มต้นใหม่    เสน่ห์และความคิดสร้างสรรค์เพื่อบรรจงวันที่โรยแรง   ความเรียบง่ายของวัยเด็กจะได้ช่วยผ่อนคลายความซับซ้อนของชีวิต
-
          เด็กร่าเริง  มัก เป็นคนที่มองหาสิ่งสนุกสนานให้กับชีวิตเสมอ ชอบซักถามและแสดงความกระตือรือร้นเล่นกับทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ชอบหัวเราะและชอบอยู่กับคนหมู่มาก
-
          บุคลิกดึงดูด เป็น เสน่ห์ตามธรรมชาติที่บุคลิกภาพร่าเริงจะดึงดูดคนรอบข้างเข้ามาหาพวก เขามักจะสร้างเรื่องตื่นเต้นให้กับชีวิตเสมอ เป็นความสามารถตามธรรมชาติที่ทำให้มีเพื่อนเยอะแยะไปหมด แต่ในความสนุกบางทีก็อาจมีเรื่องเลยเถิดไปบ้าง
-          พูดเก่งและเล่าเรื่องได้เป็นฉากๆ มักจะชอบเข้ากลุ่มแล้วพูดเรื่องโน่นเรื่องนี้ไม่หยุดมักจะแสดงออกทั้งสีหน้าและท่าทาง ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้างเสมอ
-
          สีสันของงานเลี้ยง คน ร่าเริงมักเป็นศูนย์กลางความสนใจและคุณลักษณะนี้เองทำให้ดูน่าติดตามและ ตื่นเต้นเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ มักเป็นดาวเด่นในงานเลี้ยงและในวงสนทนา
-
          ความจำเกี่ยวกับเรื่องสี คน ร่าเริงมักจำชื่อคน เวลานัด สถานที่ หรือข้อเท็จจริงต่างๆไดไม่ดีนักแต่มีความสามารถพิเศษในการจำสีสันของชีวิต แม้บางทีอาจจะจำเนื้อหาหลักๆไม่ได้แล้วก็ตาม
-
          เข้าอกเข้าใจผู้อื่น คน ร่าเริงเป็นคนอบอุ่นและใช้การสัมผัสในการสนทนากับคนทั่วไปมักชอบกอด จูบ ตบหลังตบไหล่ หรือกระแทกกับเพื่อนฝูงอย่างเรา มักเป็นคนที่แสดงออกอย่างจริงจังและเป็นคน ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง
-
          แสดงออกบนเวทีได้ดี เหมาะ กันงานพิธีกร ประชาสัมพันธ์ พนักงานต้อนรับเพราะคนร่าเริงมักชอบกระต้นคนริบข้างให้กระตือรือร้นและมี อารมณ์ขันและพวกเขาชอบที่จะเป็นศูนย์กลางของคนหมู่มาก
-
           เบิกตากว้างและไร้เดียงสา มักเป็นคนที่ไม่มีความซับซ้อนอะไรมากนักแต่ไม่ได้หมายความว่าโง่หรอกนะ แค่บางที่อาจเข้าใจอะไรช้ากว่าคนอื่นไปหน่อยเท่านั้น
-
          กระตืนรือร้นและชอบแสดงออก มักเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและกระตือรือร้นดับสิ่งใหม่ๆในชีวิตเสมอๆ
-
          อยากรู้อยากเห็น มักเป็นคนที่ไม่ตกข่าวและชอบสืบค้นเรื่องต่างๆที่ตัวเองยังไม่รู้เสมอเพราะพวกเขาอยากรู้ไปหมดเสียทุกเรื่องเลยที่เดียว
-
          เหมือนเด็กๆ มัก มีท่าทางเหมือนเด็กๆและมักชอบให้เป็นที่รักของทุกคน เพราะคนร่าเริงชอบที่จะเป็นศูนย์กลางความสนใจ จึงชอบทำตัวน่าเอ็นดูเหมือนเด็กเล็กๆเสมอ
-
          มักรับขันอาสาทำโน่นทำนี่ คนร่าเริงเป็นผู้ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักขออาสาทำโน่นทำนี่จนบางครั้งก็ไม่ได้คิดถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมา
-
          สร้างสีสันและมีความคิดสร้างสรรค์    มัก เป็นคนที่ไม่ชอบหยุดอยู่นิ่งๆ ชอบคิดสิ่งใหม่ๆและเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา มักหาความท้าทายใหม่ๆให้กับชีวิต ส่วนมากชอบฝันถึงสิ่งใหม่ๆและมักชอบเริ่มต้นทำโครงการใหม่ๆ
-
          จูงใจคนรอบข้างและมีเสน่ห์ คน ร่าเริงเปี่ยมไปด้วยพลังและความกระตือรือร้น พวกเขามักจะดึงดูดและจูงใจผู้อื่นได้ดีมักแสดงออกในรูปของความเป็นผู้นำที่ เนียนที่สุดเพราะสามารถจูงใจคนให้ช่วยงานจนงานบรรลุผลสำเร็จได้
-
          เข้ากับคนได้ง่าย คนร่าเริงไม่มีใครเป็นคนแปลกหน้า เพราะการพูดแค่สวัสดีก็สามารถทำให้เป็นเพื่อนกันได้หมดทุกคนแล้ว มักจะไม่กลัวกับการสนทนากับคนก็ตามที่อยู่ใกล้ๆ และเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี
-
          ท่าทางตื่นเต้น มัก จะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยไหวพริบ จึงมีชีวิตที่น่าตื่นเต้นกว่าเพื่อนๆ และการเล่าเรื่องราวซ้ำๆเป็นการเพิ่มความน่าตื่นเต้น น่าเชื่อถือให้กับเรื่องราวต่างๆที่ได้รู้มา
2. จัดระเบียบไปกับคนเจ้าระเบียบ  โลกนี้จำเป็นต้องมีคนเจ้าระเบียบอยู่เพื่อ...    มองโลกให้ลึกซึ้ง ให้เข้าใจว่าแก่นแท้ของชีวิตคืออะไร   ชื่นชมความงามของศิลปะและธรรมชาติ
สร้างงานชิ้น เอกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน  วิเคราะห์และหาทางออกที่เหมาะสม    ตรวจสอบรายละเอียดเวลาที่คนอื่นทำงานไม่รอบคอบ    มุ่งมั่นทำงานที่เริ่มไว้ให้สำเร็จ   ตัดสินใจว่าทำอะไรและจะคุ้มค่าหรือไม่   ทำทุกอย่างอย่างถี่ถ้วนและเป็นขั้นเป็นตอน
- ลึกซึ้ง ช่างคิดและช่างวิเคราะห์  จะ เป็นพวกคิด วางแผน สร้างและประดิษฐ์ พร้อมที่จะงานซ้ำซากน่าเบื่อหากมองเห็นว่ามีผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในอนาคต เนื่องจากจิตใจส่วนลึกๆจะอยู่กับงานเสมอ มักชอบของเล่นที่ต้องใช้สมอง และชอบคอยสังเกตผู้คนรอบข้างเสมอ มักชอบทำงานคนเดียวเพราะคิดว่าการปรึกษาหารือกับผู้อื่นทำให้งานไม่ไปถึงไหน มักเป็นพวกมีเหตุ มีผล มีตรรกะ
- เอาจริงเอาจังและมีเป้าหมาย มักจะมองในระยะยาวและมักทำในสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในระยะยาวนั้น
- เฉียบแหลมฉลาดเป็นกรด คน ฉลาดและนักดนตรีส่วนมากเป็นคนเจ้าระเบียบหากได้รับการจูงใจและปลูกฝังที่ดี ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่เพราะมักทำทุกสิ่งทุกอย่างๆตั้งใจให้ออกมาดีที่ สุดและดึงศักยภาพภายในออกมาใช้อย่างเต็มที่
- เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์สูง เช่นศิลปิน นักดนตรี นักปรัชญา กวี พวกเจาจะยอมรับการพลุ่งพล่านของอารมณ์ของตัวเอง
- ชอบจัดทำรายการสิ่งที่ต้องทำ วาดแผนถูมิและมีตัวเลขสถิติอ้างอิง สำหรับชีวิตของพวกเขา เขาเอว่าการจัดระเบียบให้กับชีวิตจะช่วยทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในขั้นที่สูงๆขึ้นไป
- เก็บทุกรายละเอียด มัก จะใส่ในกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และมองว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องที่สำคัญ คือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆเพียงใดก็ตาม
- เป็นระเบียบและตามขั้นตอน จะ ต้องจัดเรียงทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบมิฉะนั้นแล้วเขาจะทำงานอะไรไม่ได้เลย มักจะทำงานอย่างมีระบบ มีระเบียบแบบแผนใส่ใจทุกราลละเอียดของงาน
- เนี๊ยบและเรียบร้อย มัก จะแต่งตัวดี หวีผมเรียบแปล้ ทรงผมจัดทรงเป็นเงางาม  และจะไม่ยอมปล่อยให้มีอะไรระเกะระกะหรือเลอะเทอะตามพื้น และเป็นคนที่สนใจ ใส่ใจและพิถีพิถันกันรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเสมอ
- สมบูรณ์แบบ มาคราฐานสูง เมื่อ ลงมือทำงานอะไรลงไปแล้วจะต้องทำให้มันออกมาสมบูรณ์ ไม่ว่าจะทำเร็วหรือทำช้าก็ไม่สำคัญเท่ากับให้งานออกมาดี มีคุณภาพดี เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าปริมาณงานจะต้องออกมาถูกต้องและตรงเวลา เพื่อให้เป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับและทำตาม
- ประหยัด คน เจ้าระเบียบจะไม่ใช้จ่ายอย่างสุรุยสุร่ายหรือทิ้งข้าวของให้เปล่าประโยชน์ พวกเขาชอบการต่อรองราคา มักจะชอบตัดคูปองลดราคามาใช้ มักจะไม่พลาดเรื่องการให้ส่วยลดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ
- ขี้วิตกและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มัก วิตกกังวลในเรื่องของคนอื่น และคอยระมัดระวังที่จะไม่ทำให้ใครเสียใจ คอยสังเกตคนอื่นและคอนดูว่าใครมีปัญหากังวลใจอะไรบ้าง มักจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีเพราะมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น มักจะรับฟัง คิดวิเคราะห์ และหาทางออกที่ดีให้กับผู้อื่นเสมอ
- หาคนรู้ใจในอุดมคติ เป็น คนที่ต้องทำอะไรให้สมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง และจะพยายามหาคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบให้กับตัวเองเช่นกัน และจะเป็นคนระมัดระวังตัวในการเข้าหาผู้อื่น มักจะมีเพื่อนสนิทไม่มากแต่ทุ่มเทให้กันและกันเต็มที่ เพราะพวกเขาไม่ต้องการเน้นปริมาณเหมือนกับคนร่าเริง
หมั่นตรวจสอบอารมณ์ของเราเอง
จาก ข้างต้นจะเห็นความแตกต่างว่า คนร่าเริงมีชีวิตอยู่ด้วยแรงขับดันของอารมณ์และชีวิตจะเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆ อย่างรวดเร็ว ไม่สม่ำเสมอ ส่วนคนเจ้าระเบียบจะควบคุมสถานการณ์ได้ดีและสังเกตอาการเดือด ดาลของคนร่าเริงด้วยสายต่างวิเคราะห์พิจารณา แต่ทั้งคู่ต่างมีอารมณ์อ่อนไหวและละเอียดอ่อนเพียงแค่คุณควบคุมอารมณ์สักนิดทุกสิ่งทุกอย่างก็คงจะดีกว่าที่เป็นอยู่
- ไม่จบง่ายๆ  คน เจ้าระเบียบก็เป็นคนเจ้าอารมณ์เช่นกันแบบสุดโต่งคือ อารมณ์ร้อนก็ร้อนแบบน่า ตกใจ อารมณ์เย็นก็เย็นใจหาย แต่ปกติจะเป็นคนอารมณ์มั่นคงถ้าไม่มีอะไรมาสะกิดใจ มักเอาเหตุเล็กๆน้อยๆมาทำเป็นเรื่อง แต่คนร่าเริงอารมณ์จะเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆอย่างรวดเร็วเป็นนาที ในขณะที่คนเจ้าระเบียบต้องปรับเปลี่ยนอารมณ์เป็นสัปดาห์
- เหมือนกับหลายอย่าง ด้วย เหตุผลที่ว่าคนเจ้าระเบียบจะใส่ใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่คนร่าเริงมักไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ขึ้น การลดความกดดันและความเครียดทำได้โดยคนเจ้าระเบียบบรรเทาสถานการณ์ฉุก ละหุกของคนร่าเริงได้ ส่วนคนร่าเริงหากวางแผนให้ดีขึ้นและขี้ใจน้อยให้ลดลงก็จะช่วยให้สภาพอารมณ์ ไม่ด่ำดิ่งสู่อารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งนานเกินไป
- บริหารความสัมพันธ์กับคนไม่ยอมแพ้ใครและคนประเภทอะไรก็ได้  คนไม่ยอมใครจะเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน กระตือรือร้น และมีเป้าหมายชัดเจนต้อง ทำให้เสร็จด้วยวิธีฉัน...เดี๋ยวนี้”  ส่วนคนประเภทอะไรก็ได้จะเป็นคนง่ายๆ ปรับตัวเก่ง และเป็นคนที่เข้าได้กับทุกสถานการณ์ พวกเขามักชอบเลี่ยงความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวง แต่มักจะไม่พอใจเวลาที่เห็นคนรอบข้างทำในสิ่งที่เขาคิดว่าไม่ถูกต้อง แต่ถ้าไตร่ตรองทั้งหมดแล้ว เขาก็จะไม่ใส่ใจกับมันอีก และมักจะภูมิใจกับความหนักแน่นของตัวเอง ฉันไม่มีทางปล่อยให้ใครรู้ว่าฉันกำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ซึ่งจะต่างจากคน เจ้าระเบียบและคนร่างเริงที่มักจะสามารถรู้ได้ทันทีว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ในขณะนั้น
นลินรัตน์ E-mail: nalinrat3344@hotmail.com    ID Lind :nalinratkongkaew 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น