วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

MLM บทเรียนชีวิตตอน 3 ศักยภาพของตัวเอง

ดิฉันเชื่อว่าคนหลายคนมีศักยภาพในตัวเองสูงมาก แต่มักจะไม่มีโอกาสดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่มั่นใจหรือ ไม่มีสิ่งกระตุ้นหรือ ไม่รู้ว่าตัวเองมี หรือ รู้ว่ามี แต่ไม่รู้จะดึงออกมาได้อย่างไร”   แต่....จะ ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถ้าเราไม่สามารถดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ภายในออกมาใช้งานได้ ศักยภาพนั้นๆไม่มีความหมายอะไร ศักยภาพเปรียบเสมือนบ่อก๊าซหรือน้ำมันที่มีอยู่ใต้ดิน ตราบใดที่ยังไม่มีใครขุดขึ้นมาใช้งาน มูลค่าที่แท้จริงของมันก็ยังไม่เกิดขึ้น ถ้าใครได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง หรือได้มีโอกาสเข้าฟังการสัมมนาในหัวข้อนี้ จะพบว่าส่วนใหญ่มักจะเน้นให้เรามุ่งเน้นการพัฒนาทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของ ตัวเอง แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา อ.พบว่าคนส่วนใหญ่มักจะเสียเวลากับการพัฒนาจุดอ่อนของตัวเองมากถึงมากเกินไป ทำให้พลาดโอกาสในการพัฒนาจุดแข็งของตัวเองไป เราอาจจะเสียเวลานานมาก ทุ่มเททรัพยากรมากมาย เพื่อพัฒนาจุดอ่อน(ความสามารถที่ต่ำกว่าคนทั่วไป) แต่อย่าลืมนะครับว่าความสำเร็จในการพัฒนาจุดอ่อนนั้นดีที่สุดก็คงเป็นเพียง การได้มาซึ่งความสามารถที่เท่าเทียมหรือดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อ.จะขอยกตัวอย่างดังนี้ ถ้าคนๆหนึ่งเป็นคนที่มีความสามารถด้านการเป็นวิทยากร แต่ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ไม่เก่งบัญชี ไม่เก่งภาษาต่างประเทศ ถ้าคนๆนี้มัวแต่เสียเวลากับการพัฒนาจุดอ่อนทั้งสามอย่างนี้ รับรองได้ว่าดีที่สุดก็คือ เก่งคอมพิวเตอร์ เก่งบัญชี หรือเก่งภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่...อ.เชื่อว่าความเก่งที่เพิ่มขึ้นมานี้คงจะไม่ถึงระดับที่ได้รับการยอม รับว่าเก่งที่สุดในเรื่องคอมพิวเตอร์ บัญชี หรือ ภาษาต่างประเทศอย่างแน่นอน  อย่างดีที่สุดก็แค่เพียงแก้จุดอ่อนให้หายไปเท่านั้นเอง ทำไม จึงเป็นเช่นนั้น........เหตุผลสำคัญที่อ.คิดว่าการพัฒนาจุดอ่อนนั้นทำได้ดี ที่สุดก็แค่เสมอหรือดีกว่ากับคนทั่วๆไปเล็กน้อย นั้นๆมี 2 ประการคือ
 1.     จุด เริ่มต้นของการพัฒนาจุดอ่อนของเราห่างไกลจากคนที่เขามีเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น โอกาสที่เราจะพัฒนาในเรื่องนั้นๆให้สามารถแซงหน้าคนที่เขาเก่งเรื่องนี้เป็น ทุนอยู่แล้วนั้นมันมีโอกาสน้อยมาก  
 2.     จุด อ่อนส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่คนๆนั้นไม่ถนัดและไม่ค่อยชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อมีการพัฒนาก็ไม่ได้ทุ่มเทใจให้ทั้งหมด เพราะถ้าเขาชอบในเรื่องนั้นๆ มันก็คงจะไม่เป็นจุดอ่อนจนถึงปัจจุบันนี้หรอก 

ที่บอกมาทั้งหมดนี้ เพื่อต้องการให้ใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาตัวเอง ช่วยเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ โดยการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นให้ มากขึ้น อย่าเสียเวลาพัฒนาจุดอ่อนให้มากจนเกินไป ควรเอาเวลา ทรัพยากรที่มีอยู่มาพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นจะดีกว่า เพราะถ้าเราสามารถพัฒนาจุดแข็ง(ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เราชอบอยู่แล้ว) ให้โดดเด่นขึ้นมา โอกาสที่จุดอ่อนของเราจะถูกกำจัดก็มีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น นักมวยที่พัฒนาฝีมือการชกจนได้เป็นแชมป์โลก มีชื่อเสียงขึ้นมา เดิมทีอาจจะมีจุดอ่อนที่พูดไม่เก่ง แต่เมื่อเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากการชกมวยแล้ว มีโอกาสได้ให้สัมภาษณ์ มีโอกาสพูดมากขึ้น มีคนเก่งๆเรื่องการพูดเข้ามาหามากขึ้น  โอกาส ที่จุดอ่อนจะถูกกำจัดไปก็ง่ายขึ้น (เราจะเห็นว่านักมวยที่อดีตพูดไม่เก่ง ปัจจุบันนี้เป็นดาราไปแล้วก็มี) คนที่ทำธุรกิจเก่ง แต่ไม่เก่งภาษาต่างประเทศ วันหนึ่งเมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจแล้ว ก็สามารถกำจัดจุดอ่อนไปได้เช่นเดียวกัน เพราะสามารถว่าจ้างชาวต่างประเทศมาทำงานกับบริษัทของตัวเองได้ หรือไม่ก็ต้องติดต่อกับต่างประเทศมากขึ้น   นัก ฟุตบอลบางคนไม่จบการศึกษาอะไรมา แต่เมื่อมีชื่อเสียงขึ้นมาต่างประเทศซื้อตัวไปเล่น แน่นนอนว่าภาษาอังกฤษซึ่งเดิมเป็นจุดอ่อนของเขา จะถูกพัฒนาไปเองโดยอัตโนมัติเมื่อได้มีโอกาสไปเล่นที่ต่างประเทศ  

ดิฉัน ขอเสนอแนะแนวทางในการสร้างจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นดังนี้  
ค้นหาจุดแข็งของตัวเอง เรา ต้องรู้ก่อนว่าจุดแข็งของเราคืออะไร และจุดแข็งอะไรที่เราชอบด้วย และลองวิเคราะห์ดูว่าจุดแข็งที่เรามีอยู่นั้น มีโอกาสไปสู่ความสำเร็จมากน้อยเพียงใด เช่น คนบางคนชอบแต่งเพลง ให้เราลองวิเคราะห์ดูว่าคนแต่งเพลงในเมืองไทยมีทั้งหมดกี่คน โอกาสที่เราจะก้าวเข้าไปสู่ในวงการนี้มีมากน้อยเพียงใด สรุปง่ายๆคือให้หาจุดแข็งในด้านที่มีโอกาสพัฒนาขึ้นมาเป็นจุดเด่นได้นั่นเอง 
เลือก จุดแข็งที่เราชอบมาพัฒนา เพราะ อะไรก็ตามที่เรามีใจชอบหรือรักสิ่งนั้นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เราจะทำสิ่งนั้นได้ดี ถ้าไม่เชื่อว่าอะไรที่เราชอบเราจะทำได้ดีหรือทำอย่างเต็มที่ ลองไปดูคนที่ชอบดื่มเหล้าซิครับ ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้องอย่างไร ถ้าเพื่อนนัดไปดื่มเหล้า เขาจะต้องไปให้ได้ ไม่เคยหาข้ออ้างว่าทำไมถึงไปสายหรือไปไม่ได้ (เหมือนกับข้ออ้างของคนที่มาทำงานสาย) คนที่ชอบช๊อปปิ้ง จะเดินดูของได้ทั้งวัน ไม่เคยบ่นว่าเมื่อย เพราะเขาทำในสิ่งที่เขาชอบ การเลือกทำในสิ่งที่เราชอบ ถือว่าเป็นแรงจูงใจภายใน คุณสมบัติของแรงจูงใจภายในคือไม่ค่อยเสื่อมถอยหรือหมดพลังไปกับกาลเวลาไม่ เหมือนกับแรงจูงใจภายนอกที่มักจะเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา เช่น เงินเดือน (แรงจูงใจภายนอก) จะจูงใจคนได้อยู่เพียงเดือนแรกที่ได้รับเงินเดือนใหม่ หลังจากนั้นแรงจูงใจนั้นก็จางหายไป  การเริ่มพัฒนา จุดแข็งก่อนผู้อื่นจะได้เปรียบ เช่น ถ้าเราเริ่มก้าวเข้าสู่วงการเขียนหนังสือตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ วันหนึ่งนักเขียนอาวุโสก็ต้องจากเราไป หรือไม่ก็แก่จนไม่สามารถเขียนหนังสือได้แล้ว ถ้าเราเริ่มเข้าสู่วงการนี้ก่อน เมื่อวันเวลาผ่านไป แน่นอนเราก็คงจะมีพรรษาในเรื่องนี้มากขึ้น โอกาสที่จะเป็นคนที่โดดเด่นในด้านนี้ก็มีสูงเช่นกัน อย่างนี้เขาเรียกว่า การวางแผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นในระยะยาว  


สรุป การพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกันทุกด้านคงจะเป็นเรื่องที่ทำได้ ยากมากสำหรับชีวิตคนหนึ่งคน แต่ถ้าเราเลือกเอาจุดแข็งมาพัฒนาให้เป็นจุดเด่น ผลพวงแห่งความสำเร็จของจุดเด่นนั้นจะช่วยสร้างบารมี สร้างโอกาสให้เราได้พัฒนาจุดอ่อนไปเองโดยอัตโนมัติ อ.จึงอยากจะให้พวกเราทุกคนจงลดความพยายามในการพัฒนาจุดอ่อนลง แล้วหันมาทุ่มเทกับการพัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดเด่นมากยิ่งขึ้น แล้วท่านจะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่เร็วขึ้นหรือยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น นะคะ
นลินรัตน์  โทร  086- 9165697

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น